บางรัก 13 ก.พ.-นายกฯ บอกคุยพรรคร่วม ก่อนประชุมร่วมรัฐสภาพิจารณาแก้ รธน. รับมีความเห็นต่าง ยัน “เพื่อไทย” ไม่มีหน้าอย่างหลังอย่าง ย้ำจุดยืนเดิมไม่แก้หมวด 1 หมวด 2 ถามกลับต้องให้ใส่ความก้าวร้าวหรือ ชี้คุยกันด้วยเหตุผล
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15 / 1 เพื่อเปิดทางให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ปรากฏว่าสภาล่ม ว่า จะได้เห็นภายใต้การนำของตน ทั้ง สส.และ สว. ก็คิดต่างกันได้ ซึ่งก็ไม่เหนือความคาดหมาย
ส่วนที่พรรคฝ่ายค้านโจมตีพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอย่างพรรคเพื่อไทย ต่อเหตุการณ์สภาล่ม นายกรัฐมนตรี ระบุว่า จริงๆแล้วเป็นกลไกทางรัฐสภา เมื่อทั้งสองสภามีความเห็นที่แตกต่างกันก็จะเป็นเช่นนี้ ถ้าเรื่องใดที่เห็นตรงกันก็จะไม่ออกมาเป็นแบบนี้
เมื่อถามต่อว่า เป้าหมายของพรรคเพื่อไทย คือการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีควา มใช่หรือไม่ เนื่องจากมี สส.บางส่วน ลงชื่อสนับสนุนญัตติของนายแพทย์เปรม ศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค มีความเห็นว่าอาจจะต้องส่ง เพื่อที่จะดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ส่วนนโยบายการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา จำเป็นที่พรรคร่วมรัฐบาลต้องมีการพูดคุยกันหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า มีการพูดคุยกันก่อนหน้านี้แล้ว
ส่วนจะมีการพูดคุยกันต่อ หลังจากนี้หรือไม่ เพื่อให้การทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลมีเอกภาพ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นข้อเสนอของแต่ละพรรค ที่เสนอมาตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง และทราบอยู่แล้วว่าแต่ละพรรคนั้นเสนออย่างไร และได้มีการพูดคุยกันและยอมรับว่า มีความคิดเห็นที่ไม่เหมือนกัน
เมื่อถามว่า เมื่อเป็นนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา จำเป็นต้องปรับจูนกับความคิดเห็นของพรรคร่วมรัฐบาลที่เห็นไม่ตรงกันหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลายเรื่องมีความคิดเห็นที่ตรงกัน แต่เมื่อเป็นรัฐบาลผสม จะมีความคิดเห็นเหมือนกันร้อยเปอร์เซ็นต์ก็คงจะเป็นไปไม่ได้ แต่ก็เคารพสิทธิของกัน
เมื่อถามว่า แม้ว่าฝ่ายบริหารจะสามารถทำงานร่วมกันได้ แต่ฝ่ายนิติบัญญัติเห็นต่างกัน จะไม่เป็นปัญหาใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า ทราบอยู่แล้วว่า มีความเห็นที่แตกต่างกัน
ส่วนจากกรณีดังกล่าวพรรคเพื่อไทยอาจถูกมองว่าหน้าอย่าง หลังอย่าง เพราะตอนหาเสียงผลักดันการแก้ไขธรรมนูญ แต่เมื่อเข้าขั้นตอนสภา ก็ปล่อยให้เป็นไปตามระบบ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ใช่หน้าอย่างหลังอย่าง เรายังยืนอยู่จุดยืนเดิม ไม่แก้หมวด1 หมวด2 ก็ผลักดันไป แล้วต้องใส่ความก้าวร้าวหรืออย่างไร ก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นการรักษาไว้ซึ่งความสงบ และคุยกันด้วยเหตุผล แสดงจุดยืนทางประชาธิปไตยของตัวเองก็แค่นั้น
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธการตอบคำถามถึงการวางแนวทางของพรรคเพื่อไทยในการประชุมร่วมรัฐสภาต่อในวันพรุ่งนี้ (14 ก.พ.).-316.-สำนักข่าวไทย