ตร.เชียงใหม่ คุมสัปเหร่อรับจ้างฆ่าชายเร่รอน ทำแผนฯ

เชียงใหม่ 9 ต.ค. – ตำรวจคุมตัวสัปเหร่อใช้มีดฟันชายเร่ร่อนถึง 19 แผล เสียชีวิตใต้สะพานบ้านซาง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ไปทำแผนฯ สารภาพหญิงวัย 61 ปี เป็นคนบงการ หวังเงินฌาปนกิจสงเคราะห์จากการนำชื่อผู้ตายไปเข้าเป็นสมาชิก


ตำรวจชุดสืบสวนแม่ริม จ.เชียงใหม่ จับกุมนายปั๋นแก้ว ขันแก้ว อายุ 48 ปี สัปเหร่อบ้านแม่กุ้ง ต.ขี้เหล็ก อ.แม่ริม ผู้ต้องหาใช้อาวุธมีดฟันนายอนันต์ ทองมารย์ อายุ 58 ปี ชายเร่ร่อน เสียชีวิตใต้สะพานหมู่บ้านซาง ต.ขี้เหล็ก อ.แม่ริม เมื่อ 5 วันก่อน ผู้ต้องหารับสารภาพว่าวันเกิดเหตุชักชวนผู้ตายดื่มสุราจนเมาและใช้อาวุธมีดฟัน แต่ผู้ต้ายต่อสู้จึงฟันไม่ยั้งจนเสียชีวิต โดยได้รับการว่าจ้างมาจากนางบัวลอย ทะลา อายุ 61 ปี ในราคา 40,000 บาท เพื่อหวังเอาเงินฌาปนกิจสงเคราะห์หลายแสนบาทจากการนำชื่อผู้ตายไปเข้าเป็นสมาชิก

ล่าสุดตำรวจ สภ.แม่ริม คุมตัวนายปั๋นแก้ว ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดเกิดเหตุ ท่ามกลางชาวบ้านหลายร้อยคนที่มารอดูการทำแผน และตะโกนสาปแช่งผู้ต้องหาว่ามีจิตใจโหดเหี้ยม โดยตำรวจเริ่มทำแผนตั้งแต่ร้านขายสุราในหมู่บ้านที่ผู้ต้องหาไปดื่มสุราย้อมใจ และบริเวณคอสะพานที่ผู้ต้องหานำรถจักรยานยนต์มาจอด ก่อนเดินลงไปทำร้ายนายอนันต์ที่นอนอยู่ใต้สะพาน จนเสียชีวิต โดยใช้เวลาทำแผนทั้งหมดไม่ถึง 10 นาที ก็รีบนำตัวผู้ต้องหากลับไปคุมขัง เพราะเกรงว่าจะถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์ ส่วนนางบัวลอย ทะลา ผู้จ้างวาน ถูกนำตัวไปทำแผนบริเวณจุดนัดพบในหมู่บ้าน


พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ารับจ้างจากนางบัวลอย เป็นเงิน 40,000 บาท ซึ่งมีการพูดคุยกันมานานเป็นเดือน ก่อนลงมือก่อเหตุคืนวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา หลังก่อเหตุเสร็จก็กลับบ้านนำมีดไปล้าง นำเสื้อผ้าเปื้อนเลือดไปทิ้งในคลองชลประทาน และกลับมาอยู่บ้านตามปกติ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กระทั่งเจ้าหน้าที่แกะรอยจากกล้องวงจรปิด และเข้าจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ ซึ่งผู้ต้องหาให้การชัดทอดว่านางบัวลอยเป็นผู้จ้างวาน ตำรวจจึงขยายผลไปจับกุมนางบัวลอย ซึ่งรับสารภาพว่าเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์จากการนำชื่อนายอนันต์ไปเข้าเป็นสมาชิกฌาปนกิจสงเคราะห์ของสหกรณ์ยูเนียน หากนายอนันต์เสียชีวิต เมื่อหักค่าใช้จ่ายต่างๆ จะได้เงินเกือบ 100,000 บาท อีกทั้งก่อนหน้านี้ตนก็โกรธแค้นที่ผู้ตายนำเรื่องส่วนตัวของตนไปเล่าให้ผู้อื่นฟังในทางเสียหาย

เบื้องต้นตำรวจจึงดำเนินคดีนายปั๋นแก้ว ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ก่อนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ส่วนนางบัวลอยถูกดำเนินคดีในข้อหาเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิด ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง