แพทย์สงสัยที่ทรัมป์ใช้สเตียรอยด์สำหรับคนอาการหนัก

วอชิงตัน 5 ต.ค.- แพทย์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรักษาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐมองว่า การที่คณะแพทย์เริ่มให้เดกซาเมทาโซน ซึ่งเป็นยาในกลุ่มสเตียรอยด์สำหรับลดอาการอักเสบรุนแรง เป็นหลักฐานชัดเจนที่สุดว่าผู้นำสหรัฐอาจมีอาการหนัก


นพ.แดเนียล แมคกิลเลน ผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อ โรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์ลาเฮย์ รัฐแมสซาชูเซตส์ให้ความเห็นว่า คณะแพทย์ที่รักษาประธานาธิบดีแถลงเมื่อวันอาทิตย์ว่าเริ่มให้การรักษาด้วยยาเดกซาเมทาโซนเพราะระดับออกซิเจนในเลือดต่ำแต่อาการดีขึ้นและอาจออกจากโรงพยาบาลได้ในวันจันทร์ บ่งชี้ว่าประธานาธิบดีอาจมีอาการหนักกว่าที่แถลง ด้าน นพ.สตวร์ต โคเฮน หัวหน้าแผนกโรคติดเชื้อ ศูนย์การแพทย์เดวิส มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียตั้งข้อสังเกตว่า ประธานาธิบดีทรัมป์มีความเสี่ยงตั้งแต่ต้น เพราะอายุ 74 ปี มีน้ำหนักตัวเกิน และเสี่ยงเกิดอาการแทรกซ้อน

นพ.อาเมช อาดัลจา ผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อ มหาวิทยาลัยจอห์นส์ฮอปกินส์กล่าวว่า แพทย์จะใช้เดกซาเมทาโซนกับผู้ป่วยที่ต้องให้ออกซิเจน หากทรัมป์ไม่ต้องให้ออกซิเจนก็ออกจากโรงพยาบาลไปทำภารกิจตามปกติได้ แต่ปัญหาคือมีความเสี่ยงที่อาการทรุดลงหรือไม่ ขณะที่ นพ.เดวิด แบตติเนลลี เครือนอร์ทเวลล์เฮลท์ รัฐนิวยอร์กมองว่า ทรัมป์อาจออกจากโรงพยาบาลได้ในวันนี้ แต้ต้องใช้เวลาพักฟื้นอย่างน้อย 14 วันก่อนจะออกไปหาเสียงได้อีกครั้ง


ทรัมป์ทวีตแจ้งเมื่อค่ำวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐว่า ผลตรวจหาเชื้อไวรัสเป็นบวก และเดินทางไปรับการรักษาที่ศูนย์การแทพย์ทหารแห่งชาติวอเตอร์รีด ชานกรุงวอชิงตันในวันรุ่งขึ้น โดยในระหว่างรอที่ทำเนียบขาวแพทย์ได้ให้แอนติบอดีชนิดโมโนโคลนผสม 2 ขนานที่อยู่ระหว่างการทดลองของบริษัทรีเจเนอรอน และเมื่อไปถึงศูนย์การแพทย์ในวันเสาร์แพทย์ได้เริ่มฉีดเรมเดซิเวียร์ ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสเข้าหลอดเลือดดำของบริษัทกิเลียดไซเอินซ์ การรักษาทั้งสองขนานนี้ใช้กับผู้ป่วยระยะแรกเพื่อป้องกันไม่ให้อาการทรุดลง ส่วนเดกซาเมทาโซน สมาคมโรคติดเชื้อแห่งอเมริการะบุว่า เป็นประโยชน์กับผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 อาการหนักที่ต้องให้ออกซิเจน แต่ผลการศึกษาบางชิ้นพบว่า ไม่ได้ผล ซ้ำอาจเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยโควิดที่มีอาการปานกลาง.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

“เด็ก-เยาวชน” ส่ง ส.ค.ส.อวยพร “ปีใหม่-วันเด็ก” ให้นายกฯ

“เด็ก-เยาวชน” ส่ง ส.ค.ส.อวยพรปีใหม่ 2568 – วันเด็ก ให้ “นายกฯ พี่อิ๊งค์” มีความสุข สุขภาพแข็งแรง ตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมือง อยู่คู่ตึกไทยคู่ฟ้า บริหารประเทศไปนานๆ พร้อมฝากความคิดถึง “อดีตนายกฯ ทักษิณ”

16 บอสดิไอคอน แถลงปฏิเสธทุกข้อหา ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน 10 ก.พ.

16 บอส ดิไอคอนกรุ๊ป แถลงปฏิเสธทุกข้อหา ศาลนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐาน 10 ก.พ.นี้ ขณะที่ “ทนายวิฑูรย์” เผย “บอสพอล-บอสกันต์” ดีใจ หลัง “แซม-มิน” ได้ปล่อยตัว ส่วนท่าทีทั้งคู่ดูสบายๆ ปกติ ล่าสุดมีรายงาน “บอสวิน” ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว อยู่ระหว่างรอผล

ภรรยา “ลิม กิมยา” ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน

ภรรยา “ลิม กิมยา” ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน รวมถึงดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารและการติดต่อรับศพนายลิม ที่แผนกนิติเวช รพ.วชิรพยาบาล

บอสแซมมิน

ยังไม่จบ! “แซม-มิน” ลุ้น DSI เห็นแย้งอัยการหรือไม่

แม้อัยการสั่งไม่ฟ้อง “บอสแซม-บอสมิน” แต่ดีเอสไอย้ำชัด คดียังไม่จบ มีเวลาอีก 30 วัน พิจารณาสำนวนที่ถูกตีกลับว่าจะเห็นแย้งคำสั่งหรือไม่ ส่วนประเด็น “บอสมิน” ไม่ถูกตัดผมขณะถูกคุมขัง ราชทัณฑ์มีคำตอบให้แล้ว