“มาดามอ้อย“ หอบหลักฐานปมคดี “ทนายตั้ม” ยื่น ปปง.ขอรับการคุ้มครองสิทธิ

ปปง.9 ม.ค.- “มาดามอ้อย“ หอบหลักฐานโอนเงิน สำเนาแคชเชียร์เช็ค ปมคดี “ทนายตั้ม” โกงเงิน 71 ล้านบาท ยื่น “ปปง.” ขอรับการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย


น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือมาดามอ้อย พร้อมด้วย ทนายสมชาติ พินิจอักษร เข้าพบเจ้าหน้าที่ ปปง. เพื่อยื่นคำร้องและพยานเอกสาร ขอรับการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายในรายคดีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม กับพวก ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และความผิดฐานฟอกเงิน โดยมีเหตุที่อันควรเชื่อได้ว่ามีการโอน ยักย้าย ปกปิดหรือซ่อนเร้นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด คณะกรรมการธุรกรรม จึงมีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด 3 รายการ เป็นที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร รวมมูลค่าประมาณ 71 ล้านบาทนั้น โดยมี น.ส.สุปราณี สถิตชัยเจริญ ผอ.กองความร่วมมือและพัฒนามาตรฐาน ในฐานะรองโฆษกประจำสำนักงาน ปปง. เป็นตัวแทนรับเรื่อง

นายสมชาติ กล่าวว่า มาดามอ้อย มายื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย จำนวน 71 ล้านบาท ตามที่ได้มีการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาไปก่อนหน้านี้ ส่วนมีความกังวลเรื่องทรัพย์สินหรือไม่นั้น เพราะมีมูลค่ากว่า 71 ล้านบาท ตนก็ว่าเอาเท่าที่สำนักงาน ปปง. จะตรวจสอบทรัพย์สิน และได้ยึดอายัดไว้ เท่าไรก็เท่านั้น สำหรับวันนี้เราก็ต้องขอบคุณสำนักงาน ปปง. ในส่วนทางแพ่ง การดำเนินการมาตรการทรัพย์สินต่าง ๆ ส่วนคดีอาญาก็เป็นส่วนของตำรวจและอัยการที่ควบคู่ขนานกันไป อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตัวเลขอื่นอย่างจำนวน 39 ล้านบาท ก็คงจะตามมา ดังนั้น ด้วยทั้งหมดที่อยู่ในคดีมูลฐานความผิดทางอาญาที่เกี่ยวข้องก็คงต้องให้ ปปง. ดำเนินการต่อไปในเรื่องทรัพย์สิน


นายสมชาติ กล่าวอีกว่า จำนวนเงินที่เกี่ยวข้องกับมาดามอ้อย หลัก ๆ คือเงินจำนวน 71 ล้านบาท เงินจำนวน 39 ล้านบาท รถเบนซ์มูลค่า 11 ล้านบาทเศษ และอีก 9 ล้านบาท ส่วนการเข้าให้ปากคำกับพนักงานอัยการที่ผ่านมา สำนักงานอัยการที่ดูแลคดีนอกราชอาณาจักร ก็มีการสอบสวนปากคำเพิ่มเติมในประเด็นนอกราชอาณาจักร ซึ่งมีส่วนใดส่วนหนึ่งที่มีการกระทำความผิดสัมพันธ์กันระหว่างคดีในราชอาณาจักรและนอกราชอาณาจักร ซึ่งเป็นอำนาจของอัยการ รวมเรื่องการทำสัญญาและเรื่องเส้นทางการเงินต่าง ๆ เข้าไปด้วย

สำหรับพยานเอกสารที่นำมายื่นให้กับ ปปง. เพื่อขอรับการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย มีทั้งใบโอนเงินของธนาคาร หรือสำเนาแคชเชียร์เช็คในส่วนของ 39 ล้านบาท รวมถึงใบร้องทุกข์กล่าวโทษ และหลักฐานทางการเงิน ส่วนการระบุพฤติการณ์ของผู้กระทำความผิดนั้น อยู่ในสำนวนการสอบสวนของตำรวจอยู่แล้ว ตนเชื่อว่าตำรวจคงได้สำเนาให้กับทาง ปปง. เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ยืนยันว่าจนถึงตอนนี้ไม่มีข้อกังวลใจอะไรเลย

เมื่อถามว่าทนายตั้มยังคงอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ยังคงไม่ได้รับการประกันตัวนั้น ทนายสมชาติ ให้ความเห็นว่า ก็ตามข่าว เขายังอยู่ในเรือนจำฯ ส่วนจะอยากให้เจ้าตัวได้เอ่ยอะไรหรือไม่นั้น ตนเชื่อว่ามันอยู่ที่กระบวนการการคิดของเขาว่าเขาจะคิดและพิจารณาอย่างไร ส่วนถ้าทนายตั้มอยากขอขมามาดามอ้อย อันนี้ตนเชื่อว่าเป็นเรื่องสามัญสำนึกของแต่ละบุคคล คงไม่ก้าวล่วงเขา ส่วนถ้าหากหลังจากนั้นจะอยากคุยหรือไกล่เกลี่ยต้องไปคุยกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล แทนหรือไม่นั้น อันนี้ ตนตอบแทนไม่ได้


ด้านมาดามอ้อย กล่าวว่า ตนรู้สึกดีและมั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ รู้สึกสบายใจขึ้น ไม่เครียดไม่ซีเรียสอะไร ส่วนถ้าทนายตั้มจะอยากมาขอขมา ตนขอย้ำว่าไม่ขอไกล่เกลี่ย ไม่คุยอะไรทั้งสิ้น เพราะตนได้เคยให้โอกาสเขาไปแล้ว ส่วนถ้าหลังจากนี้จะมีคนเข้าหาตนในลักษณะเช่นนั้นอีก การระวังตัวจะมากขึ้นหรือไม่นั้น เรื่องนี้ตนระวังเยอะมากขึ้นเลย ระวังอย่างถึงที่สุด หากใครมาขอยืมเงิน หรือมาเชิญให้ร่วมลงทุนอะไร ตอนนี้ตนอยู่ที่ครอบครัวเลย ทำธุรกิจแค่กับครอบครัว ทั้งนี้ หลังจากนี้คงเดินทางไปพักผ่อน ไม่ต้องเข้าให้การอะไรกับตำรวจอีกแล้ว เพราะได้ให้การไปหมดแล้ว

ส่วนสาเหตุว่าทำไมยังอยู่ไทยต่ออีก 2 เดือนนั้น มาดามอ้อย ระบุว่า จริง ๆ ตนมีแพลนจะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ก็เลยอยู่ที่นี่รอดูเหตุการณ์ด้วย และรอดูว่าคดีจะเป็นอย่างไรบ้าง หรือทางตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) จะมีเรียกสอบอะไรเพิ่มหรือไม่ เพราะจำได้ว่าอาจจะมีเรียกสอบอีกทีในช่วงเดือน ม.ค.นี้ เลยอยู่ต่อไปก่อน หากมีการเรียกสอบเพิ่มเติมจุดไหนที่ต้องแก้ไข เราก็จะได้ให้ความร่วมมือ และเมื่อถามว่าจะรออยู่ไทย เพื่อดูจนถึงขั้นส่งฟ้องศาลเลยหรือไม่นั้น มาดามอ้อย ระบุว่า ใช่ค่ะ ทั้งนี้ จนถึงวันนี้ทางฝั่งทนายตั้มยังไม่ได้ส่งคนมาพูดคุยอะไรกับตน เงียบผิดปกติ ส่วนเขาจะคิดอะไรไหมนั้น ตนไม่ทราบ ตนแค่จะดำเนินการให้ถึงที่สุด ไปสุดซอย.-119- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

ภูมิต้านภัย : จับตาทุจริตงบซ่อม ฮ.ตำรวจ

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – คอลัมน์ “ภูมิต้านภัย” ตรวจสอบหาสาเหตุเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตก 2 เหตุการณ์ในรอบ 1 เดือน หลังถูกตั้งข้อสังเกตถึงการนำ ฮ.ที่เสีย มาตั้งงบซ่อมแบบไม่ได้มาตรฐาน ทำให้นักบินต้องเสี่ยงชีวิตทุกครั้งที่ยก ฮ.ขึ้นน่านฟ้า. – สำนักข่าวไทย

นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้

รัฐสภา 31 พ.ค.-นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนโยกกระทรวงให้ถาม “ทักษิณ” คนพูด ปมดึง มท. มาดูเอง ย้ำครอบงำไม่ได้ แต่พ่อให้คำปรึกษา ลูกรับไว้พิจารณา เผยยกหูหากลางห้องประชุมแล้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ว่า วันนี้ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไร ถ้าจะมีการปรับเปลี่ยนอะไร หากเป็นรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเดี๋ยวตนจะคุยเอง เห็นเป็นกระแสข่าวออกไปหลายอย่างมาก ทำให้รัฐมนตรีทุกคนรู้สึกหวั่นไหวและท้อใจ ซึ่งตนไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ซึ่งตนพยายามสื่อสารในพรรคเพื่อไทยว่าอย่างไรเดี๋ยวจะคุยเอง ส่วนคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้บั่นทอนจิตใจพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า ไม่ เมื่อสักครู่ก็นั่งอยู่ข้างๆ กันไม่ได้มีอะไร ไม่มีใครถามถึงเรื่องนี้เลย เมื่อถามว่ากระทรวงมหาดไทยทำงานไม่ดีจริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นั่นเป็นความคิดเห็นของนายทักษิณ แต่ตนยังไม่ได้ประเมินอะไร เดี๋ยวก็รอดู ส่วนมีการพูดคุยกับนายทักษิณ หรือไม่ว่าเหตุใดจึงให้สัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า คุยกันทุกวัน หากถ่ายรูปมา เมื่อสักครู่ได้ตนก็คุยโทรศัพท์กับคุณพ่อ ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าตอนนี้ถูกมองว่าเป็นการครอบงำพรรคเพื่อไทย นายกรัฐมนตรี […]

สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 นายกฯ เชื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย

รัฐสภา 31 พ.ค.-สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 วาระแรก เสียงท่วม 322 เสียง ตั้ง กมธ. 73 คน พบ “อนุดิษฐ์” โผล่เป็น กมธ.โควตารัฐบาล ด้านนายกฯ ขอบคุณสภาฯ ยันรัฐบาลจัดลำดับความสำคัญงบฯ ตามสถานการณ์ เชื่องบประมาณที่เสนอไปจะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทยทุกคน ตั้งใจใช้เป็นเครื่องมือสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันสุดท้ายของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยหลังจากใช้เวลากว่า 3 วัน รวม 41 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ด้วยคะแนน 322 ต่อ 158 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการ จำนวน 73 คน ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า มีชื่อ […]

โฆษก ทบ. ยันสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน

กองทัพบก 31 พ.ค.-โฆษก ทบ. ยืนยันสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน แต่ยอมรับว่า แนวทางการปิดด่านเป็นแผนส่วนหนึ่งที่หน่วยงานระดับพื้นที่อาจพิจารณาใช้ เพื่อดูแลความมั่นคงและความปลอดภัยประชาชน พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงกรณีกระแสข่าวการพิจารณาปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาบางจุดว่า ปกติจะเป็นส่วนหนึ่งของแผน สำหรับใช้ในการบริหารจัดการต่อสถานการณ์ ที่อาจส่งผลกระทบความมั่นคง และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ของหน่วยงานในระดับพื้นที่ปัจจุบัน ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การปิดด่านจะดำเนินการต่อเมื่อมีความจำเป็นจริง โดยในอดีตจะดำเนินการเฉพาะต่อเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่นั้นๆ มีปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในระดับที่น่ากังวลสูง โดยเฉพาะข่าวสารที่น่าเชื่อว่าจะมีการใช้อาวุธระยะไกล ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน หากพิจารณาในภาพรวม ส่วนใหญ่มีความเรียบร้อย มีเพียงบางจุดบางพื้นที่เท่านั้นที่อาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความน่ากังวลมากนัก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายได้อาศัยกลไกที่มีอยู่ในระดับพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ภายใต้กรอบข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้ยึดถือกันอยู่อย่างเคร่งครัด.-313.-สำนักข่าวไทย