DSI ส่งสำนวนพร้อมผู้ต้องหาคดีกำนันนกฮั้วประมูล เสนออัยการสั่งฟ้อง 41 ราย

9 ม.ค.- DSI ส่งสำนวนพร้อมกับตัวผู้ต้องหา คดีกำนันนก ฮั้วประมูลโครงการในพื้นที่จังหวัดนครปฐม เสนออัยการสั่งฟ้อง 41 ราย


ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดย กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวน กรณีบริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด และ บริษัท ป.รวีกนก ก่อสร้าง จำกัด ซึ่งมี นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลในจังหวัดนครปฐมเป็นผู้ชนะ การประมูลเข้าทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 – 2566 กว่า 1,500 โครงการ ความเสียหายหลายพันล้านบาท โดยเชื่อว่ามีการตกลงร่วมกันในการเสนอราคาเพื่อวัตถุประสงค์ที่จะให้ประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ โดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมหรือโดยการกีดกันมิให้มีการเสนอสินค้าหรือบริการอื่นต่อหน่วยงานของรัฐ หรือโดยการเอาเปรียบแก่หน่วยงานของรัฐอันมิใช่เป็นไปในทางการประกอบธุรกิจปกติอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีคำสั่งให้กรณีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1)(ง (คดีความผิดทางอาญาที่มีผู้ทรงอิทธิพลที่สําคัญเป็นตัวการ ผู้ใช้ หรือผู้สนับสนุน) โดยคดีดังกล่าวมีพนักงานอัยการ สำนักการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุดเข้าร่วมทำการสอบสวนกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษตั้งแต่เริ่มการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้วสามารถดำเนินคดีกับขบวนการที่จัดฮั๊วประมูลในโครงการประมูลด้วยวิธีประกวดราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ที่ทำให้รัฐเกิดความเสียหายจำนวนมาก

และในวันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม 2568) พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มอบหมายให้ ร้อยตำรวจเอก วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ร้อยตำรวจเอก สุรวุฒิ รังไสย์ ผู้อำนวยการกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ นายศุภภางกูร พิชิตกุล รองผู้อำนวยการฯ นายวิโรจน์ ทูคำมี รองผู้อำนวยการฯ นายโยธิน ธรรมสุรีย์ ผู้อำนวยการ


ส่วนคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ 1 นางภัทรพร วิจิตรทัศนา ผู้อำนวยการส่วนคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ 2 และนายนรา จันทร์พ่วง ผู้อำนวยการส่วนอำนวยการคดี นำสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษกรณีดังกล่าว จำนวน 48 แฟ้ม รวม 18,433 แผ่น พร้อมความเห็นให้ฟ้องผู้ต้องหา 41 ราย ส่งพนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต โดยอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาในข้อหา “ตกลงร่วมกันในการเสนอราคา เพื่อวัตถุประสงค์ที่จะให้ประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐโดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม หรือโดยการกีดกันมิให้มีการเสนอสินค้า หรือบริการอื่นต่อหน่วยงานของรัฐ หรือโดยการเอาเปรียบแก่หน่วยงานของรัฐอันมิใช่เป็นไป
ในทางการประกอบธุรกิจปกติ ร่วมกันเป็นธุระในการชักชวนให้ผู้อื่นร่วมตกลงกันในการเสนอราคา ร่วมกันให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้เงิน หรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ผู้อื่น เพื่อประโยชน์ในการเสนอราคา โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะจูงใจให้ผู้นั้น ร่วมดำเนินการใด ๆ อันเป็นการให้ประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ หรือเพื่อจูงใจ ให้ผู้นั้นไม่เข้าร่วมในการเสนอราคาหรือถอนการเสนอราคา เรียก รับหรือยอมจะรับเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด” ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4 และมาตรา 5 ประกอบกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ซึ่งในวันนี้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ส่งสำนวนการสอบสวนดังกล่าวพร้อมกับตัวผู้ต้องหา จำนวน 40 ราย ให้พนักงานอัยการร ยกเว้นกำนันนกที่อยู่ระหว่างถูกคุมขังที่เรือนจําพิเศษกรุงเทพมหานคร ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ 3694/2566 ของศาลอาญาและคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 206/2566 ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีการบังคับใช้กฎหมายทางอาญา (Regulation Enforcement) เกี่ยวกับคดีอาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญและประชาชนให้ความสนใจอย่างกว้างขวาง เป็นไปตามดัชนีหลักนิติธรรม (Rule of Law Index) โดยมีการบูรณาการร่วมกันกับหลายหน่วยงาน ทั้ง กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมบัญชีกลาง กรมการปกครองส่วนท้องถิ่น เครือข่ายภาคประชาชนอาทิ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน(ประเทศไทย) เครือข่ายต่อต้านการฮั้วประมูลในพื้นที่ โดยการบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน (Strong Collaboration) เป็นนโยบายหลักประการสำคัญของ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงยุติธรรม เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในการป้องกันปราบปราม สืบสวนสอบสวนคดีในความรับผิดชอบ เพื่อให้การบริหารองค์มีความยั่งยืนตามหลักธรรมาภิบาลต่อไป .119 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

นักธรณีคาดดินยุบตัว เพราะเป็นจุดทางน้ำไหลผ่านจนเกิดโพรง

นักธรณีวิทยาลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุดินยุบตัว กินพื้นที่กว่า 4 ไร่ เบื้องต้นคาดเป็นจุดทางน้ำไหลผ่านจนเกิดโพรง ทำให้ดินยุบตัวเป็นวงกว้าง

ก.อุตฯ เตรียมส่งตรวจเหล็กตึก สตง. เพิ่ม 21 เม.ย.

ก.อุตสาหกรรม กางผลตรวจเหล็กตึก สตง.ถล่ม รอบแรก ก่อนส่งตรวจเพิ่มอีก 40 ท่อน 21 เม.ย. ย้ำผิดคือผิด! ผู้ผลิต-จนท.มีเอี่ยว เตรียมปิดเทอม

พายุฝนพัดต้นยางอายุร่วม 100 ปี ทับโรงครัววัดพังราบ

พายุฝนลมกระโชกแรง ซัดต้นยางอายุร่วม 100 ปี วัดนางเหลียว ล้มทับโรงครัวพังเสียหาย ชาวบ้านในงานศพตื่นตระหนก วิ่งหนีกระเจิง