กรุงเทพฯ 9 ม.ค.- เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรโมร็อกโกประจำประเทศไทย กล่าวเนื่องในวันครบรอบ 81 ปี การประกาศอิสรภาพของราชอาณาจักรโมร็อกโก วันที่ 11 มกราคม ว่าเป็นวันที่ประชาชนชาวโมร็อกโกเฉลิมฉลองช่วงเวลาของความเข้มแข็ง ความเป็นเอกลักษณ์ และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ถือเป็นวันที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของโมร็อกโก
ฯพณฯ อับเดอร์ราฮิม ราห์ฮาลี่ เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรโมร็อกโกประจำประเทศไทยกล่าวว่า การประกาศอิสรภาพแสดงให้เห็นถึงการได้รับอิสรภาพจากประเทศฝรั่งเศสและสเปน ในยุคล่าอาณานิคม ซึ่งเข้ามาปกครองตั้งแต่ปี ค.ศ.1912 – 1956 วันประกาศอิสรภาพมีความสำคัญกว่าในเนื้อหาที่ระบุในเอกสาร โดยถือเป็นเหตุการณ์ประจำปีที่ทำให้ประชาชนชาวโมร็อกโกรำลึกถึงความรักชาติ ความศรัทธา ความซื่อสัตย์ การบริการ และการมองโลกในแง่ดี เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการได้รับอิสรภาพ
ในปี ค.ศ.1912 ราชอาณาจักรโมร็อกโกถูกแบ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนการปกครอง ประเทศฝรั่งเศสครอบครองดินแดนตอนกลางของประเทศ ในขณะที่ประเทศสเปนครอบครองดินแดนตอนเหนือและใต้ เมืองแทนเจียร์ ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ ถือเป็นสภากลางการปกครองกำกับดูแลดินแดนทั้ง 12 แห่ง
ต่อมาในปี ค.ศ.1944 ประชาชนชายและหญิงชาวโมร็อกโกจำนวน 66 คน ได้รวมตัวกันเป็นกลุ่มเคลือนไหวของชาติโมร็อกโก และการประกาศอิสรภาพนี้ถือเป็นการแสดงออกถึงการต่อสู้เพื่ออิสรภาพ และความมุ่งมั่นที่จะปกป้องอำนาจอธิปไตยและความเป็นปึกแผ่นของประเทศ
เอกอัครราชทูตโมร็อกโกกล่าวเสริมว่า กลุ่มคนที่เสียสละเพื่อมาต่อสู้ในเรื่องดังกล่าวดำเนินต่อไปนับตั้งแต่บัดนั้น โดยเป็นกลุ่มคนที่ยึดมั่นที่จะสนับสนุนให่ประเทศมีอำนาจอธิปไตยและมีความเป็นปึกแผ่น
หากการประกาศอิสรภาพนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของการได้รับอิสรภาพของโมร็อกโก จิตวิญญาณในการต่อสู้นี้ยังคงดำรงอยู่ โดยจะเห็นได้จากการมีจุดมุ่งหมายที่จะพัฒนาประเทศ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยมีการวางแผนงานและกลยุทธในการสร้างความเข้มแข็งให้ประเทศชาติ ภายใต้การนำของผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ก้าวไกลของสมเด็จพระราชาธิบดีโมฮัมเหม็ดที่ 6.-814.-สำนักข่าวไทย