โลมา ลูกบุญมี หรือ สุภิสรา คนหลัก นักสู้สาวชาวไทยเพียงหนึ่งเดียวใน UFC องค์กรศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานอันดับหนึ่งของโลก เตรียมขึ้นสังเวียนกรงแปดเหลี่ยมอีกครั้งในศึก UFC Fight Night: Holm vs Aldana วันที่ 4 ตุลาคมนี้ โดยจะพบกับ จิน ยู เฟรย์ นักสู้มากประสบการณ์ชาวอเมริกัน-เกาหลี ดีกรีอดีตแชมป์ Invicta FC รุ่นอะตอมเวท
โลมา ลูกบุญมี นักสู้สาวจากบุรีรัมย์ วัย 24 ปี เริ่มชกมวยไทยตั้งแต่อายุเพียง 8 ขวบ ผ่านการชกอาชีพมากว่า 200 ไฟต์ คว้าแชมป์ทั้งหมด 9 รายการ ไม่ว่าจะเป็น แชมป์โลก S-1, แชมป์สนามมวยอัศวินดำ, แชมป์สนามมวยเทพประสิทธิ์ รวมถึงคว้าเหรียญทองมวยไทยในเอเชียนบีชเกมส์ และเหรียญทองมวยไทยสมัครเล่นชิงแชมป์โลก 2 สมัย
โดยเธอกล่าวถึงการเป็นนักชกอาชีพตั้งแต่อายุยังน้อยว่า “เราเลือกเส้นทางนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว แม้จะไม่ค่อยมีเพื่อน เพราะต้องซ้อมและเดินสายขึ้นชกอยู่เป็นประจำ แต่ไม่ได้เสียใจอะไร เงินค่าตัวที่ได้มา หนูก็ให้ที่บ้าน ส่งพี่สาวและตัวเองเรียน ทั้งพี่และหนูขึ้นชกกันทั้งคู่ พ่อก็ชกด้วย ครอบครัวเราคลุกคลีกับสังเวียนการต่อสู้มาตลอด หนูขึ้นชกเพราะอยากช่วยเหลือที่บ้าน และอยากให้พวกเขามีชีวิตที่ดีค่ะ”
หลังจากประสบความสำเร็จในแวดวงมวยไทย โลมา ได้ผันตัวมาต่อสู้ในแบบ MMA เมื่อต้นปี 2018 โดยเซ็นสัญญากับ Invicta FC ค่าย MMA หญิง ที่ใหญ่ที่สุดของโลก ก่อนย้านเข้าสังกัด UFC เมื่อเดือนสิงหาคม 2019 ซึ่งถือเป็นชาวไทยรายแรกที่ได้เซ็นสัญญากับทางค่ายยักษ์ใหญ่แห่งสหรัฐอเมริกา โดยประเดิมไฟต์แรกด้วยการชนะคะแนน อเล็กซานดรา อัลบู เมื่อเดือนตุลาคม ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมีสถิติการสู้ใน MMA ชนะ 4 และแพ้ 2 ครั้ง
“น้องหล้า” กล่าวถึงการเป็นนักกีฬาไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ UFC ว่า “ภูมิใจมากค่ะที่เป็นนักสู้ชาวไทยคนแรกใน UFC และเป็นแรงบันดาลใจให้นักสู้ไทยคนอื่นๆ ในการพัฒนาตนเอง เพื่อสักวันหนึ่ง พวกเขาจะก้าวขึ้นมาบนสังเวียนแห่งนี้ และหนูคิดว่า เราจะได้เห็นนักสู้ชาวไทยใน UFC มากขึ้น”