ระยอง 25 ก.ย.-พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกหญิงผู้ต้องสงสัยคดีใช้เช็คเด้งซื้อทองรูปพรรณน้ำหนัก 20 บาท ขณะที่ร้านทองตั้งรางวัลนำจับ 100,000 บาท
สำนักข่าวไทย เกาะติดความคืบหน้ากรณีสาวแสบเชิดทองรูปพรรณ น้ำหนัก 20 บาท มูลค่า 578,000 บาท จากร้านทอง “สุพัตตรา เยาวราช” ภายในห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส สาขาแกลง จังหวัดระยอง เมื่อวานนี้ (23 ก.ย.) ช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. จากนั้นจึงมีการแจ้งความดำเนินคดีเมื่อเวลา 14.00 น. ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกใบหน้าหญิงสาวและรูปพรรณได้ทั้งหมด อีกทั้งร้านทองได้แสดงเช็คที่แสดงหลักฐานทั้งชื่อ-นามสกุล รวมถึงลายเซ็นของหญิงสาวคนดังกล่าวเอาไว้
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (24 ก.ย.) พนักงานสอบสวน สภ.แกลง เรียกพนักงานประจำร้านทอง 2 คน ที่เป็นคนจัดทองรูปพรรณน้ำหนัก 20 บาทให้กับหญิงสาวคนดังกล่าว มาสอบปากคำเพิ่มเติม
ผู้กำกับการ สภ.แกลง กล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกตัวนางสาวพิชชาภา อายุ 46 ปี ชาวอำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยมาพบในวันที่ 28 กันยายน หากยังไม่มาตามหมายนัด พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกอีก 2 ครั้ง และหากยังไม่เข้าพบจะขอศาลอนุมัติหมายจับ อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้ได้ประสาน สภ.พนมสารคาม ติดตามตัวอีกทางหนึ่ง
ผู้กำกับการ สภ.แกลง เปิดเผยถึงพฤติการณ์ของหญิงสาวรายนี้ว่าได้ใช้วิธีออกเช็คตามจำนวนราคาทองคำที่ขอซื้อจากร้าน จากนั้นนำเช็คไปเข้าบัญชีของร้านทอง และเมื่อเช็คเข้าบัญชีเสร็จจะมียอดเงินปรากฏขึ้นในบัญชี แต่เป็นยอดเงินลอยเพื่อรอการเคลียริ่งจากธนาคาร จากนั้นหญิงสาวคนดังกล่าวได้ใช้ยอดเงินลอยในบัญชี เพื่อรอการเคลียริ่งระหว่างธนาคารไปอ้างกับพนักงานร้านทองว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชีแล้ว ทำให้พนักงานร้านทองหลงเชื่อและมอบให้หญิงสาวคนดังกล่าว
ขณะที่อีกด้านชุดสืบสวน สภ.แกลง ติดตามข้อมูลจากกล้องวงจรปิดหน้าห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส และธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาแกลง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมในการดำเนินคดี ทั้งนี้ร้านทองสุพัตตรา เยาวราช” ยังประกาศให้รางวัล 100,000 บาท หากใครแจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุม พร้อมประสานร้านทองทุกแห่ง หากเห็นใครนำสร้อยคอทองคำที่มีอักษร “พ” ตรงตะขอ ซึ่งเป็นตราของร้าน ขอให้ช่วยแจ้งตำรวจด้วย
ขณะเดียวกันทีมข่าวสำนักข่าวไทยยังลงพื้นที่ไปยังบ้านของผู้ก่อเหตุใน ต.หนองยาว อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา พบประตูเหล็กด้านหน้าถูกปิดล็อกด้วยกุญแจด้านใน ภายในบ้านมีคนอยู่แต่ไม่มีใครกล้าออกมาด้านนอก ทุกคนเก็บตัวอยู่ในบ้าน จากการหาข้อมูลเบื้องต้น น.ส.พิชชาภา ที่เคยอยู่บ้านหลังดังกล่าว เป็นคนที่อื่นไม่ใช่คนพนมสารคาม เธอเป็นคนชอบเล่นการพนัน และมักจะเดินสายเล่นไปทั่ว ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ทำอาชีพขายไก่สดที่ตลาดพนม และมาซื้อที่ปลูกบ้านหลังดังกล่าวเมื่อ 15 ปีก่อน และเลิกขายไก่มาหลายปีแล้ว โดยบ้านหลังดังกล่าวได้ถูกขายทอดตลาด แต่ปัจจุบันยังสามารถอยู่อาศัยได้
จากการสอบถามเพื่อนบ้านเล่าว่า เห็นผู้ก่อเหตุมาที่บ้านหลังนี้เมื่อวันก่อน แต่มาแป๊บเดียวแล้วก็ไปโดยมีรถเก๋งสีแดงเก่าๆมารับไป ทั้งนี้บ้านหลังนี้อยู่กันประมาณ 5 คน มักมีปัญหาเรื่องคดีความ ไฟแนนซ์ตามทวงหนี้ และบ้านนี้จะไม่ค่อยสุงสิงกับใคร.-สำนักข่าวไทย