กงสุลกิตติมศักดิ์เยือนสมุยกระตุ้นท่องเที่ยว

สมุย 23 ก.ย. – คณะกงสุลกิตติมศักดิ์ ประจำประเทศไทย เดินทางไปร่วมทำกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม และสัมผัสบรรยากาศการท่องเที่ยวของเกาะสมุย หวังสร้างการรับรู้และกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง


คณะกงสุลกิตติมศักดิ์ ประจำประเทศไทย เดินทางไปที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อร่วมทำกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม และกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวของเกาะสมุย โดยร่วมกันปล่อยพันธุ์ลูกปูม้าคืนสู่ธรรมชาติ ตามโครงการคืนปูม้า สู่ทะเลไทย เพื่อเพิ่มปริมาณปูม้าในธรรมชาติ เนื่องจากปูม้าเป็นสัตว์ทะเลเศรษฐกิจสำคัญสร้างรายได้ให้ชาวประมงพื้นบ้าน และเป็นที่นิยมของผู้บริโภค จึงมีการจับปูม้าในช่วงที่มีไข่ จนทำให้ปริมาณปูม้าในธรรมชาติบริเวณรอบเกาะสมุยลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านจึงจัดตั้งเป็นธนาคารปูม้าขึ้นมาจำนวน 5 แห่ง เพื่ออนุรักษ์พันธุ์ปูม้า และสัตว์น้ำอื่นๆ อย่างเต่าทะเล รวมทั้งเป็นการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมที่เป็นทรัพยากรสำคัญของการท่องเที่ยวให้คืนความอุดมสมบูรณ์และสวยงาม พร้อมรองรับการท่องเที่ยวหลังวิกฤติโควิด-19

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยนางศุภากาญจน์ ยอดฉุน ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเกาะสมุย สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยว สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ฝั่งตะวันออก ให้การต้อนรับ และจัดเลี้ยงรับรอง ในบรรยากาศธรรมชาติที่สวยงามยามเย็น สร้างความประทับใจให้กับคณะเป็นอย่างมาก


ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวแสดงความพร้อมของเกาะสมุยในการรองรับนักท่องเที่ยวอีกครั้งหลังวิกฤติโควิด-19 โดยกล่าวว่า หลังจากปิดการท่องเที่ยวจากผลกระทบโควิด-19 หลายเดือน ทำให้ปัจจุบันสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะท้องทะเลสมุย มีความสวยงามบริสุทธิ์ ธรรมชาติฟื้นตัวกลับมาอุดมสมบูรณ์ มีเต่าทะเลขึ้นมาวางไข่ถึง 19 รัง ขณะเดียวกันธรรมชาติใต้ท้องทะเล อย่างแนวปะการัง รวมทั้งสัตว์ทะเลต่างๆ ก็กลับมาสวยงามอีกครั้งเช่นกัน และคาดหวังว่าการมาเยือนของคณะกงสุลกิตติมศักดิ์ในครั้งนี้จะช่วยสื่อสารถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ได้รับรู้ถึงความพร้อมของเกาะสมุยในการรองรับนักท่องเที่ยวให้กลับมาท่องเที่ยวคึกคักเช่นที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง