กรุงเทพฯ 17 ก.ย. – สศช.แจงเบิกจ่ายเงินกู้ฟื้นฟูเศรษฐกิจ 4 แสนล้านบาท ไม่ได้ล่าช้า ยืนยันขั้นตอนต้องโปร่งใสรัดกุม
นายดนุชา พิชยนันท์ รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะโฆษก ชี้แจงการดำเนินการ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ในส่วนการดำเนินงานตามแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม วงเงิน 400,000 ล้านบาท ที่สำนักงานฯ เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก ณ วันที่ 16 กันยายน 2563 ครม.อนุมัติโครงการรอบที่ 1 แล้ว 229 โครงการ วงเงิน 60,131 ล้านบาท (รวมวงเงินของโครงการที่ ครม.มีมติให้ใช้จ่ายงบกลางจำนวน 160 โครงการ รวม 1,132 ล้านบาท)
นายดนุชา กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีโครงการที่คณะกรรมการฯ มีมติเห็นชอบในหลักการของโครงการแล้ว แต่ยังอยู่ระหว่างปรับปรุงข้อเสนอโครงการอีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการยกระดับเศรษฐกิจชุมชนด้วยการสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ฯ และโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย) วงเงินรวมประมาณ 30,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถเสนอให้ ครม.พิจารณาได้ภายในเดือนกันยายน 2563 ตามแผนการดำเนินงานที่คณะกรรมการฯ ได้เสนอ ครม.ไว้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีการเบิกจ่ายเพียง 1.80% ของวงเงินอนุมัติ ซึ่งจากการพิจารณาแผนดำเนินโครงการตามข้อเสนอของหน่วยงานรับผิดชอบ พบว่าส่วนใหญ่กำหนดว่าจะมีการเบิกจ่ายงวดแรกได้ในเดือนกันยยน 2563 เนื่องจากภายหลังจากได้รับอนุมัติจาก ครม.ให้ดำเนินโครงการแล้ว หน่วยงานรับผิดชอบโครงการจะต้องเตรียมการจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นตามขั้นตอนและระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้จ่ายเงินกู้เป็นไปด้วยความโปร่งใสและรัดกุม
สำหรับ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ได้กำหนดว่าการกู้เงินตาม พ.ร.ก.จะนำไปใช้ใน 3 เรื่องหลัก ได้แก่ 1. เพื่อแก้ไขปัญหาการระบาดของโควิด-19 2. เพื่อช่วยเหลือเยียวยาและชดเชยให้แก่ภาคประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 และ 3. เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19
ส่วนการแก้ไขปัญหาการระบาดของโควิด-19 นั้น มีกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก ปัจจุบัน ครม.พิจารณาเห็นชอบแผนงาน/โครงการตามที่ สธ.เสนอ รวม 5 โครงการ วงเงินรวม 4,724 ล้านบาท โดยให้ใช้จ่ายจากเงินกู้รวม 3 โครงการ วงเงิน 102 ล้านบาท และเงินงบประมาณ (งบกลาง) 2 โครงการ วงเงิน 4,662 ล้านบาท โดยในส่วนที่เหลือ สธ.อยู่ระหว่างดำเนินการตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2563
ขณะที่การให้ความช่วยเหลือเยียวยาและชดเชยให้แก่ภาคประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 วันที่ 14 กันยายน 2563 ครม.อนุมัติการใช้จ่ายเงินกู้เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนในภาคส่วนต่าง ๆ รวม 30.51 ล้านราย (ต่ำกว่ากรอบจำนวนผู้มีสิทธิได้รับความช่วยเหลือของหน่วยงานรับผิดชอบรวม 45 ล้านราย) วงเงินรวม 344,735 ล้านบาท (เบิกจ่าย 86.24% ของกรอบวงเงินอนุมัติ) โดยสาเหตุที่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ 100% ส่วนใหญ่เนื่องมาจากมีจำนวนประชาชนที่มีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้ต่ำกว่าเป้าหมาย.-สำนักข่าวไทย