ชง ครม.ต่ออายุรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย “สีแดง-สีม่วง” ออกไปอีก 1 ปี

กรุงเทพ 28 พ.ย.-“สุริยะ” ชง ครม.สัญจร “เชียงใหม่-เชียงราย” 29 พ.ย.นี้ ต่ออายุมาตรการค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย “สีแดง-สีม่วง” ออกไปอีก 1 ปี หวังลดภาระค่าครองชีพพี่น้องประชาชนอย่างไร้รอยต่อ พร้อมเปิดเมกะโปรเจกต์ “บก-ราง-อากาศ” จ่อเสนอ ครม.พิจารณาอนุมัติ สร้างโอกาสให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์อย่างทั่วถึง ยกระดับคมนาคมไทย ก้าวสู่ศูนย์กลางในภูมิภาค

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่ จ.เชียงใหม่-เชียงราย ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอให้ที่ประชุม ครม. ต่ออายุมาตรการอัตราค่าโดยสารสูงสุด 20 บาท (20 บาทตลอดสาย) 2 โครงการ คือ โครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดงสายนครวิถี (กรุงเทพอภิวัฒน์ – ตลิ่งชัน) และสายธานีรัถยา (กรุงเทพอภิวัฒน์ – รังสิต) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ช่วงเตาปูน – คลองบางไผ่ ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ออกไปอีก 1 ปี โดยจะครบกำหนดในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 จากเดิมจะสิ้นสุดอายุมาตรการในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 โดยการดำเนินการดังกล่าว เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ในการลดภาระค่าครองชีพและค่าเดินทางของพี่น้องประชาชน


ทั้งนี้ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายนั้น ยังคงมีแนวโน้มยอดผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจากข้อมูลของ รฟท.ระบุว่า ในช่วงเดือนตุลาคม 2567 รถไฟฟ้าสายสีแดง มีผู้ใช้บริการอยู่ที่ 1,056,783 คน ขณะที่รถไฟฟ้าสายสีม่วง ในเดือนตุลาคม 2567 มียอดผู้ใช้บริการอยู่ที่ 2,153,904 คน และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย ขณะที่การดำเนินมาตรการค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ในทุกเส้นทาง ทุกสี และทุกสายนั้น ยืนยันว่าจะเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในเดือนกันยายน 2568 อย่างแน่นอน ประกอบกับรอพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตั๋วร่วม พ.ศ. …. ซึ่งล่าสุดกระทรวงคมนาคมได้เสนอร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ ไปยัง ครม.แล้ว อยู่ระหว่างรอบรรจุเป็นวาระการประชุม ครม. และเข้าสู่กระบวนการอื่น ๆ ต่อไป

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้กระทรวงคมนาคมยังได้เตรียมเสนอโครงการสำคัญอีกหลายโครงการให้ที่ประชุม ครม. พิจารณาอนุมัติในอนาคต เพื่อเร่งดำเนินการติดตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม ตามที่เคยประกาศไว้ให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพื่อสร้างโอกาสให้กับประชาชนและประเทศไทยให้ได้รับประโยชน์ในทุกภาคส่วน พร้อมยกระดับการคมนาคมขนส่งของไทย ก้าวสู่ศูนย์กลางในภูมิภาค ประกอบด้วย โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) วงแหวนรอบนอก ด้านตะวันตก ช่วงบางขุนเทียน-บางบัวทอง (M9), โครงการมอเตอร์เวย์ ส่วนต่อขยายอุตราภิมุข รังสิต-บางปะอิน (M5), การขอทบทวนมติ ครม. และขอปรับกรอบวงเงินโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม ช่วงรังสิต – มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และโครงการให้บริการคลังสินค้า ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของผู้ประกอบการรายที่ 2 โดยล่าสุดกระทรวงคมนาคมเสนอ ครม. แล้ว อยู่ระหว่างการบรรจุเป็นวาระการประชุม ครม.


สำหรับโครงการลงทุนและการดำเนินการสำคัญ ที่อยู่ระหว่างขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนประมวลเรื่องเสนอ ครม. ประกอบด้วย โครงการทางพิเศษสายฉลองรัช-วงแหวนรอบนอก กรุงเทพมหานคร ด้านตะวันออก โดยสถานะล่าสุดสำนักงบประมาณเสนอความเห็นแล้ว รอความเห็นจากกระทรวงการคลัง และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.), โครงการมอเตอร์เวย์วงแหวนรอบนอก กทม. ช่วงบางบัวทอง – บางปะอิน (M9) ล่าสุดอยู่ในขั้นตอนการรอความเห็นจากหน่วยงาน, โครงการทางพิเศษ จ.ภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงกระทู้-ป่าตอง ล่าสุดอยู่ขั้นตอนการรอความเห็นจากหน่วยงาน, โครงการเช่ารถโดยสารประจำทางปรับอากาศพลังงานสะอาด (EV) ล่าสุดสถานะอยู่ระหว่างกระทรวงคมนาคมพิจารณา ก่อนส่งเรื่องให้ กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และ สศช. พิจารณาเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาของ ครม. ต่อไป

ขณะเดียวกัน ยังมีการขอทบทวนมติ ครม. และขออนุมัติรวมโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงตลิ่งชัน – ศาลายา และสถานีเพิ่มเติม 3 สถานี (สถานสะพานพระราม 6 สถานีบางกราย – กฟผ. และสถานีบ้านฉิมพลี) และโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน – ศิริราช เข้าด้วยกัน เพื่อดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นสัญญาเดียว ล่าสุดอยู่ขั้นตอนของรอความเห็นจากหน่วยงาน อีกทั้ง ขออนุมัติดำเนินโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสุดเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร – หนองคาย (ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา – หนองคาย) ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรอความเห็นจากหน่วยงาน รวมถึงโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะ 2 จำนวน 6 เส้นทาง สถานะล่าสุด สำนักงบประมาณเสนอความเห็นแล้ว รอความเห็นจากกระทรวงการคลัง กับ สศช. และโครงการขออนุมัติจัดหารถโบกี้บรรทุกตู้สินค้า (บตท.) โดยกำหนดให้นำชิ้นส่วนภายในประเทศและต่างประเทศมาประกอบภายในประเทศ จำนวน 946 คัน ล่าสุดกระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณเสนอความเห็นแล้ว และอยู่ระหว่างรอความเห็นจาก สศช.

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ขณะที่โครงการลงทุนและการดำเนินงานสำคัญที่อยู่ระหว่างให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และกรมการขนส่งทางราง (ขร.) พิจารณา ได้แก่ โครงการพัฒนาและบริหารจัดการที่พักริมทางในเขตพิเศษบริเวณบางโปรง โดยสถานะอยู่ระหว่าง สนข. วิเคราะห์เรื่องเสนอโครงการฯ ส่วนเรื่องสำคัญอื่น ๆ ที่กระทรวงคมนาคม เสนอสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้ว อยู่ระหว่างกระบวนการนำเสนอ ครม. ต่อไป ขณะเดียวกัน ยังมีการขออนุมัติหลักเกณฑ์การคำนวณเงินชดเชยค่างานก่อสร้าง K (Price Adjustment) เพื่อขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2532 เป็นกรณีพิเศษเฉพาะสำหรับโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ – รังสิต เฉพาะในส่วนของงานโยธาของสัญญาที่ 1 และสัญญาที่ 2 พร้อมทั้งขออนุมัติกรอบวงเงินเพิ่มเติมสำหรับงานเวนคืนที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ ของ รฟท.-513-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.ออกแถลงการณ์กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

30 ก.ค.- กองทัพบกออกแถลงการณ์ กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงเป็นครั้งที่สอง บ่อนทำลายการคลี่คลายสถานการณ์ด้วยสันติวิธี ขอประณามการกระทำอันไม่รับผิดชอบ ย้ำจะดำเนินการอย่างเหมาะสม เด็ดขาด เพื่อปกป้องอธิปไตยไทย ตามที่รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาได้ตกลงร่วมกันในการประกาศหยุดยิง เพื่อยุติการปะทะทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยข้อตกลงดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 24.00 นาฬิกา ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 นั้น กองทัพบกขอยืนยันว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด โดยได้ระงับการใช้กำลังทุกรูปแบบ และลดกิจกรรมทางทหารในพื้นที่ เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดบรรยากาศแห่งสันติภาพ ความไว้เนื้อเชื่อใจ และความร่วมมือที่สร้างสรรค์ระหว่างทั้งสองประเทศ อย่างไรก็ตาม กองทัพบกได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ว่า ในวันที่ 29 – 30 กรกฎาคม 2568 กองทัพกัมพูชาได้กระทำการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอีกครั้ง โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ การกระทำของกองทัพกัมพูชาในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างร้ายแรง นับเป็นครั้งที่สองภายหลังจากที่ข้อตกลงมีผลบังคับใช้ และสะท้อนถึงพฤติกรรมที่ไม่เคารพต่อพันธกรณีระหว่างประเทศ ตลอดจนเป็นการบ่อนทำลายความพยายามในการคลี่คลายสถานการณ์ด้วยสันติวิธี อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพและความไว้วางใจที่ควรมีระหว่างสองประเทศ กองทัพบกขอประณามการกระทำอันไม่รับผิดชอบของกองทัพกัมพูชาอย่างถึงที่สุด และขอแจ้งให้ทราบว่า ฝ่ายไทยจะยังคงดำรงตนอยู่บนหลักแห่งความอดกลั้น สันติภาพ และมนุษยธรรมอย่างสูงสุด อย่างไรก็ดี หากมีการละเมิดต่อเนื่อง กองทัพบกจะดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมและจำเป็นอย่างเด็ดขาด เพื่อปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนไทยโดยไม่ละเว้น จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน -สำนักข่าวไทย

กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เปิดแนวปะทะพื้นที่ “อานม้า-ภูมะเขือ”

30 ก.ค. – กัมพูชากลับกลอก ละเมิดข้อตกลงอีก เปิดแนวปะทะ 2 พื้นที่ “อานม้า และภูมะเขือ” ขณะที่ ทบ.เผยทหารกัมพูชาใช้ปืนเล็ก สลับระเบิดขว้าง เมื่อคืนนี้ (29 ก.ค.) กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยก่อนอีกแล้ว ละเมิดข้อตกลงถึง 2 ครั้ง โดยเปิดแนวปะทะ 2 พื้นที่ที่ อานม้า และภูมะเขือ ทบ.เปิดเผยว่า ทหารกัมพูชาใช้ปืนเล็กสลับระเบิดขว้าง โดยเมื่อเวลา 20.45 น. แหล่งข่าวฝ่ายมั่นคงรายงานว่า ช่องอานม้า มีเหตุปะทะ กัมพูชาเปิดฉากยิง หวังยึดพื้นที่ ฝ่ายไทยตอบโต้ ขณะที่ช่วงเวลา 22.19 น. พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบขั้นต้นเกิดเหตุปะทะที่ภูมะเขือ และช่องอานม้า โดยมีปืนเล็กกับระเบิดขว้างเข้ามาที่ฐานฝั่งไทย ประมาณ 30 นาที ขณะที่เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์ไม่ต้องนอน ตามคาด! กัมพูชาละเมิดอีกแล้ว อานม้าปะทะภูมะเขือ […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสาน-กลาง-ตอ.ฝนตกหนัก กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 30 ก.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วน กทม.-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบน มีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า […]

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย