กรุงเทพฯ 14 ก.ย.-ไลน์แมนวงใน ชูจุดแข็ง พันธมิตร เทคโนโลยี ความเข้าใจคนไทย ประกาศเป็นแพลตฟอร์มอาหารที่แข็งแกร่งที่สุดของไทย
นายยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไลน์แมนวงใน กล่าวว่า หลังจากไลน์แมนและวงใน ลงทุนร่วมกันเป้าหมายต่อไปของบริษัทคือ การเป็น Food Platform อันดับ 1 ด้วยการสร้าง End-to-end Ecosystem ที่แข็งแกร่งที่สุดของไทย ภายใน 3 ปีจากนี้ การควบรวมทั้งสองบริษัทจะเป็นพันธมิตรที่ส่งเสริมธุรกิจกันด้วยมูลค่าการลงทุนที่เกิดขึ้นของ 2 บริษัท มีมูลค่า 3,300 ล้านบาท (110 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อรวมกันจะเพิ่มประสิทธิภาพให้กับอีโคซิสเต็ม Online-to-offline ที่สมบูรณ์ที่สุดสำหรับทั้งผู้ใช้และร้านอาหารสามารถสร้างคุณค่าให้ทุกฝ่ายในธุรกิจและตอบสนองต่อสภาพตลาดธุรกิจอาหารที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
การที่พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงจากเดิมมากโดยเฉพาะช่วงหลังโควิด-19 เชื่อมต่อไลน์แมนกับวงในเข้าด้วยกันจึงเกิด End-to-End Food Platform แพลตฟอร์มด้านอาหารครบวงจรที่ครอบคลุมทั้งผู้ใช้ร้านอาหารและบริการส่งอาหารเริ่มตั้งแต่ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลและรีวิวร้านอาหารบนวงในจากนั้นกดสั่งอาหารเดลิเวอรี่ผ่านไลน์แมนและร้านอาหารสามารถรับออเดอร์เดลิเวอรี่ผ่านระบบจัดการร้านอาหาร Wongnai POS (Restaurant Solutions) ของวงในได้
สำหรับแผนธุรกิจ 3 ปีของไลน์แมนวงในระยะสั้น (ภายใน 1 ปี) จะเน้นการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่ทุกฝ่ายในธุรกิจ โดยเฉพาะด้านผู้เดลิเวอรี่ ผู้ใช้งานจะสั่งอาหารจากร้านที่หลากหลายมากที่สุด ด้วยค่าส่งเริ่มต้นฟรี รวมถึงขยายพื้นที่ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรีไปสู่หัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศให้ครบ 20 จังหวัดทั่วประเทศภายในสิ้นปีนี้ สำหรับพันธมิตรร้านอาหารจะได้เห็นบริการใหม่ เช่น การเชื่อมต่อกับ LINE Official Account, Mini App, Smart Menu และ Self Promotion ฯลฯ เพื่อช่วยให้ร้านค้ามีเครื่องมือใหม่ในการทำการตลาด และการขายให้ดียิ่งขึ้น ระยะกลาง (3 ปี) มุ่งสู่การเป็นแพลตฟอร์มด้านอาหารอันดับ 1 ของประเทศไทย ด้วยการสร้างอีโคซิสเต็มด้านอาหารที่สมบูรณ์ที่สุด ซึ่งจะเกิดได้จากความเข้าใจผู้บริโภคคนไทย และการผนวกเอาความแข็งแกร่งของแพลตฟอร์มไลน์ ไลน์แมน และวงในเข้าด้วยกัน
นายยอด กล่าวอีกว่า มั่นใจว่าเราเข้าใจพฤติกรรมของคนไทยได้ดีที่สุดว่าเรื่องกินคือเรื่องใหญ่ เราจริงจังด้านร้านอาหารและอยากเชื่อมต่อผู้บริโภคกับร้านอร่อยเข้าด้วยกัน เพราะฉะนั้นโจทย์ใหญ่ที่เราต้องเดินหน้าอย่างเต็มกำลังต่อจากนี้ ไม่ใช่เพียงแค่เพิ่มยอดดาวน์โหลดแอปฯ หรือเพิ่มยอดสั่งเท่านั้น แต่คือการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของธุรกิจอาหารในประเทศด้วยอีโคซิสเต็ม Online-to-offline ที่ผนวกเอาความแข็งแกร่งของ 3 แพลตฟอร์ม คือ ไลน์ ที่เข้าถึงผู้ใช้กว่า 47 ล้านคน ไลน์แมน ที่มีพันธมิตรร้านอาหารหลากหลายมากที่สุดกว่า 200,000 ร้าน และวงในที่เป็นพันธมิตรที่ดีกับร้านอาหารกว่า 430,000 ร้านทั่วประเทศ มาอย่างยาวนาน เราเชื่อว่าการควบรวมกิจการครั้งนี้จะเป็นเหตุการณ์ครั้งสำคัญในธุรกิจอาหารของไทย ที่จะสร้างความตื่นเต้นและการเติบโตอย่างยั่งยืนให้ทุกฝ่ายในธุรกิจอย่างแน่นอน
หลังการควบรวมกิจการ ทีมงานไลน์แมนและวงในจะร่วมกันพัฒนาบริการทันที สิ่งที่เห็นผลแล้วในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ได้เปิดให้บริการในจังหวัดใหม่ ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา, เชียงใหม่, ภูเก็ต, นครราชสีมา และสงขลา โดยตั้งเป้าขยายไปยังเมืองหลักและเมืองรองรวม 20 จังหวัดทั่วประเทศภายในสิ้นปี และพัฒนาระบบรับชำระเงินผ่านบัตรเดบิตและบัตรเครดิตที่ใช้งานได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
แอปพลิเคชัน ไลน์แมนและแอปพลิเคชันวงในยังคงชื่อในการให้บริการตามเดิมผู้ใช้สามารถใช้งานทั้ง 2 แอปฯ ได้ตามปกติ
“หลายคนถามว่าทำไมวงในจึงมาร่วมมือกับไลน์แมน มีสองเหตุผล คือ เราต้องการพัฒนา efficiency และ scale ตลาดส่งอาหารมีการแข่งขันสูง ร้านอาหารก็ลำบาก คนขับมอเตอร์ไซค์ต้องการรายได้ สิ่งที่เรามีบริการที่ช่วยลดต้นทุนแต่เพิ่มการส่งอาหารและรายได้ที่สมเหตุสมผล เหตุผลที่สองคือ เราธุรกิจส่งอาหารเป็นปราการด่านสุดท้าย ที่จะสร้างยูนิคอนไทยได้ เราเชื่อว่าแต่ละผู้เล่นจะเน้นไม่เหมือนกัน เราจะเน้นร้านอาหารและระบบนิเวศในภาพรวม ตลาดบริการส่งอาหารโตขึ้นเร็วมากก่อนโควิด-19 คาดว่าจะโตร้อยละ 84 หลังโควิด-19 เราคาดการณ์ว่าจะโตมากกว่าร้อยละ 84 “ นายยอด กล่าว -สำนักข่าวไทย