สธ.สอบวินัยร้ายแรงซี7เรียกรับเงินบรรจุข้าราชการรุ่นโควิด

สธ.8 ก.ย.- สธ. แจงกรณี เรียกรับเงินบรรจุข้าราชการโควิด ที่แท้เป็นข้าราชการซี 7 สั่งสอบวินัยร้ายแรง ไม่ต้องรอสอบข้อเท็จจริง เพราะมีมูล ฐานทำเสื่อมเสีย


นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงผลการสอบข้อเท็จจริงกรณีมีบุคลากรสาธารณสุขเรียกรับเงิน 5 แสนบาท เพื่อแลกกับการช่วยเหลือเรื่องการบรรจุข้าราชการรุ่นสู้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีการเรียกรับเงินจริงแลกกับการช่วยเหลือในการบรรจุข้าราชการจริง 1 ราย ที่จังหวัดนครราชสีมา แต่เนื่องจากความผิดยังไม่เกิด แต่ก็สร้างความเสียหาย โดยเฉพาะแอบอ้างชื่อของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข และเกิดความเสียหายกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ดังนั้น จึงให้นิติกรแจ้งความลงบันทึกประจำวัน และเป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงต่อไป  

ด้าน นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 9 กล่าวว่า คณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงพบว่าเรื่องมีมูล พบหลักฐานการสนทนาผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ซึ่งมีการเรียกรับเงินจำนวน 5 แสนบาท แลกกับการช่วยเหลือให้พี่สาวของพยาบาลได้รับการบรรจุข้าราชรุ่นสู้โควิด ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ผิด เบื้องต้นพบว่าผู้ที่เรียกรับเงิน เป็นข้าราชการระดับ 7 (ซี7) ชำนาญการ ขณะนี้ได้มีการหารือร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดขอให้ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงแล้ว นพ.พงศ์เกษม กล่าวต่อว่า โดยที่จะต้องพิจารณาคือ ผู้ที่เรียกรับเงินนั้นมีตำแหน่งเป็นผู้พิจารณาการบรรจุข้าราชการรุ่นสู้โควิดหรือไม่ หากเป็นกรรมการด้วย จะเข้าข่ายการทุจริตในหน้าที่ ผิดตามมาตรา 157 ซึ่งมีโทษหนัก ทั้งไล่ออกจากราชการ และจำคุก แต่หากไม่ได้เกี่ยวข้องกับการบรรจุข้าราชการ ก็จะผิดฐานประพฤติชั่วร้ายแรง ซึ่งตามมติครม. ให้ไล่ออก และดำเนินคดีอาญาต่อไป ทั้งนี้ตามระเบียบการสอบวินัยจะใช้เวลา 180 วัน แต่กรณีนี้คาดว่าจะใช้เวลาเร็วประมาณ 30 วัน เพราะมีหลักฐานชัดเจน ระหว่างนี้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมาได้ทำการย้ายผู้ที่เรียกรับเงินไปอยู่ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดก่อน ส่วนพยาบาลที่ถูกเรียกรับเงิน ย้ายไปสถานพยาบาลอื่นก่อนเพื่อความสบายใจ..-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก