โตเกียว 3 ก.ย.- ผลสำรวจพบว่า เด็กชาวญี่ปุ่นมีสุขภาพกายที่ดีที่สุดในกลุ่มประเทศร่ำรวยและประเทศเกิดใหม่ แต่มีสุขภาพจิตแย่เป็นอันดับสองรองจากนิวซีแลนด์ เพราะมีความไม่พอใจในชีวิตและมีการฆ่าตัวตายสูง
องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติหรือยูนิเซฟออกรายงานเรื่อง “โลกที่มีผล: เข้าใจสิ่งที่กำหนดสวัสดิภาพเด็กในประเทศร่ำรวย” (Worlds of Influence: Understanding What Shapes Child Well-being in Rich Countries,) จัดอันดับประเทศร่ำรวยและเกิดใหม่ 38 ประเทศ พิจารณาจากเกณฑ์สำคัญ 3 ประการประกอบด้วยสุขภาพกาย สุขภาพจิต และทักษะทางวิชาการและสังคม โดยวิเคราะห์จากข้อมูลที่รวบรวมก่อนโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาด ภาพรวมห้าอันดับแรกได้แก่ เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก นอร์เวย์ สวิตเซอร์แลนด์ ฟินแลนด์ และห้าอันดับสุดท้ายได้แก่ชิลี บัลแกเรีย สหรัฐ นิวซีแลนด์ มอลตา ขณะที่ญี่ปุ่นอยู่ในอันดับที่ 20
หากแยกดูเฉพาะเกณฑ์สุขภาพกาย ห้าอันดับแรกได้แก่ ญี่ปุ่น ลักเซมเบิร์ก สวิตเซอร์แลนด์ เดนมาร์ก สวีเดน ห้าอันดับสุดท้ายได้แก่ สหรัฐ บัลแกเรีย ชิลี กรีซ โรมาเนีย เกณฑ์สุขภาพจิต ห้าอันดับแรกได้แก่ เนเธอร์แลนด์ ไซปรัส สเปน โรมาเนีย เดนมาร์ก ห้าอันดับสุดท้ายได้แก่ นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น ลิทัวเนีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ เกณฑ์ทักษะ ห้าอันดับแรกได้แก่ นอร์เวย์ สโลวีเนีย เนเธอร์แลนด์ สเปน ฝรั่งเศส ห้าอันดับสุดท้ายได้แก่ ชิลี บัลแกเรีย สโลวาเกีย มอลตา ไอซ์แลนด์
ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาของญี่ปุ่นชี้ว่า การรังแกกันอย่างโหดร้ายในโรงเรียนและการแข่งขันอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำได้รับการพิสูจน์แล้วว่า เป็นผลเสียต่อสุขภาพจิตของเด็ก ทำให้เด็กชาวญี่ปุ่นขาดความภูมิใจในตัวเองและไม่มีความสุข รายงานของยูนิเซฟระบุด้วยว่า วิกฤตโรคโควิด-19 ในขณะนี้จะไม่ส่งผลกระทบทางสุขภาพโดยตรงต่อเด็ก แต่ประสบการณ์จากหลายวิกฤตที่ผ่านมาชี้ว่า เด็กจะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลทางลบในระยะยาวรุนแรงที่สุด.- สำนักข่าวไทย