“ยุทธพงศ์” แถลงโต้ ทร.จี้เปิดหนังสือมอบอำนาจจีทูจี

รัฐสภา 25 ส.ค.-“ยุทธพงศ์” แถลงโต้ ทร.จี้เปิดหนังสือมอบอำนาจจีทูจี กราบวิงวอนนายกฯ ชะลอจัดซื้อเรือดำน้ำ

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจและทุนหมุนเวียน ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 สภาผู้แทนราษฎร แถลงตอบโต้กองทัพเรือ หลังวานนี้ (24 ส.ค.) มีการแถลงข่าวจัดซื้อเรือดำน้ำ และถูกพาดพิง โดยยืนยันว่า ไม่ได้นำประเด็นการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือมาเล่นการเมือง และไม่มีปัญหากับกองทัพเรือ แต่ทำตามหน้าที่ ส.ส. และกรรมาธิการงบประมาณฯ ในการตรวจสอบ ตามความเหมาะสมของภาษีประชาชนในสภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ยากลำบากจากโควิด-19 ประชาชนอดอยาก

ส่วนที่กองทัพเรือยอมรับการจัดซื้อไม่ได้ผูกพันการซื้อลำที่ 2 และลำที่ 3 แต่จะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้น นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า เชื่อว่ารัฐบาลไทยสามารถทำความเข้าใจกับจีนได้ เพราะไทยประสบปัญหาภาวะเศรษฐกิจ และเชื่อว่าจีนจะเข้าใจ

นายยุทธพงศ์ ยังตอบโต้กรณีที่กองทัพเรือยืนยันการจัดซื้อเป็นไปแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี โดยเรียกร้องให้กองทัพเรือเปิดเผยเอกสารการมอบอำนาจ หรือ Full Powers ฉบับเต็ม เพราะกองทัพเรือยังไม่เคยเปิดเผยเอกสารการรับมอบอำนาจจากนายกรัฐมนตรีไปจัดซื้อเรือดำน้ำ พร้อมยกคำพิพากษาศาลฎีกาที่การจัดซื้อจีทูจี จะต้องเป็นระหว่างรัฐบาลกลางเท่านั้น และตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏกลับเป็นการลงนามกองทัพเรือกับบริษัท ไชน่า ชิปบิลดิ้ง แอนด์ ออฟชอร์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ CSOC ที่ได้รับมอบอำนาจจากองค์กรบริหารงานของรัฐด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และอุตสาหกรรม เพื่อการป้องกันประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน จึงตั้งข้อสงสัยว่าบริษัทดังกล่าวได้รับมอบอำนาจจากประธานาธิบดีจีนจริงหรือไม่

นายยุทธพงศ์ ยังได้หยิบยกกรณีที่นายกรัฐมนตรีลงนามขอบเขตความร่วมมือเกี่ยวกับการเสริมสร้างความสามารถทางทหารกับมนตรีแห่งรัฐ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของจีนว่าเหตุใด เมื่อมีการพบปะกันแล้ว จึงไม่มีการหารือถึงการจัดซื้อเรือดำน้ำ และไม่มีการบันทึกการหารือดังกล่าวด้วย จึงขอเรียกร้อง กราบวิงวอนให้นายกรัฐมนตรีหยุดการจัดซื้อเรือดำน้ำ และเห็นแก่ความอดอยากของประชาชน เพราะปากท้องของประชาชนสำคัญกว่า แม้ไทยจะไม่มีเรือดำน้ำ ก็มีศักยภาพทางทหาร เป็นอับที่ 26 ของโลก จึงเชื่อว่าจะสามารถปกป้องผลประโยชน์ประเทศได้

นายยุทธพงศ์ กล่าวด้วยว่า ขอให้ประชาชนติดตามการลงมติของคณะกรรมาธิการงบประมาณฯ ต่อประเด็นดังกล่าว ในวันพรุ่งนี้ (26 ส.ค.) ที่พร้อมจะสู้ต่อ และพร้อมนำหลักฐานการทำจีทูทีปลอมให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามมาตรา 75 เพื่อวินิจฉัยว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่

นายยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า ขอให้นายสุพล ฟองงาม ประธานอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ฯ เปิดเผยข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาในวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมาว่ามีผู้ใดติดต่อเข้ามาบ้าง หลังเกิดกระแสข่าวว่า มี บิ๊ก ป. ติดต่อมาล็อบบี้ เพื่อให้อนุกรรมาธิการฯ ผ่านงบประมาณ

ขณะที่ นายประเสริฐ จันทรวงทอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้หยิบยกเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือมาเป็นเรื่องการเมือง แต่ที่พรรคยังคลางแคลงใจ เนื่องจากกองทัพเรือชี้แจงไม่ชัดเจน และไม่เห็นประโยชน์ต่อการจัดซื้อ ซึ่งเป็นการพิจารณาของอนุธิการครุภัณฑ์ฯ เพื่อให้เกิดประโยชน์ และยืนยันว่าโครงการรับจำนำข้าว เป็นประโยชน์มากกว่าเรือดำน้ำ แต่ไม่มีการระบุว่าโครงการรับจำนำข้าวของพรรคเพื่อไทยนั้นเป็นจีทูทีเก๊ หรือไม่.-สำนักข่าวไทย