ศาลรัฐธรรมนูญ 24 ส.ค.-“สนธิญา” ร้องศาล รธน.สั่งห้ามชุมนุม หลังพบการจาบจ้วงสถาบัน พฤติกรรมล้มล้างการปกครอง ฝากเยาวชนคิดถ้ากระบวนการเปลี่ยนแปลงประเทศผิดกม. ถือเป็นการเปลี่ยนไม่ชอบธรรม
นายสนธิญา สวัสดี อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 49 ของรัฐธรรมนูญ กรณีล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข หลังจากยื่นเรื่องนี้ให้อัยการสูงสุด(อสส.) พิจารณาตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2563 ซึ่งเวลาผ่านมา 25 วันแล้ว แต่อัยการสูงสุดไม่พิจารณาและไม่ตอบอะไรกลับมา จึงขอใช้สิทธิร้องตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคำร้อง 2 เรื่อง เนื่องจากเห็นว่าการชุมนุมในขณะนี้เป็นการล้มล้างการปกครองฯ และขอให้ศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราวไม่ให้ชุมนุมจนกว่าการพิจารณาคดีนี้จะแล้วเสร็จ โดยคำร้องทั้ง 2 เรื่องมีเหตุจากการเรียกร้องของผู้ชุมนุมที่เรียกร้องให้ยุบสภา ร่างรัฐธรรมนูญใหม่และเรื่องการคุกคามผู้ชุมนุม
“สภาชุดนี้เลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2562 จนถึงวันนี้มีวาระ 1 ปี 5 เดือน 1 วัน ซึ่งมาจากการเลือกตั้งของประชาชนเกือบ 39 ล้านคน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งกว่า 51 ล้านคน คิดเป็นจำนวนผู้มาใช้สิทธิ 74.69 % การเรียกร้องให้ยุบสภา สภาผิดอะไร ประชาชนเกือบ 39 ล้านคนที่เลือกมามีส่วนรู้เห็นหรือไม่ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านการลงประชามติเมื่อวันที่ 7 ส.ค.2559 จากประชาชนเกือบ 17 ล้านคน การเรียกร้องให้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ประชาชนกว่า 17 ล้านคนที่ลงประชามติรับรู้ด้วยหรือไม่” นายสนธิญา กล่าว
ส่วนเรื่องการคุกคามผู้ชุมนุม นายสนธิญา กล่าวว่า ที่ผ่านมาการชุมนุมลุกลามไปถึงสถาบัน และการชุมนุมทุกครั้งที่ผ่านมา ตนได้ไปร้องที่สถานีตำรวจและถามเจ้าหน้าที่ว่าผู้ชุมนุมได้ขออนุญาตตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะหรือไม่ พบว่าไม่ได้ขอ และหลังจากที่ยื่นเรื่องให้อัยการสูงสุดพิจารณา ก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจจากการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ที่ผู้ชุมนุมเจาะจลจาบจ้วง ละเมิดสถาบัน แสดงให้เห็นว่าเป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ไม่ได้เป็นการชุมนุมตามมาตรา 25 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งว่าด้วยสิทธิเสรีภาพ
“ขอฝากถึงน้อง ๆ นักเรียนที่ชุมนุมภายในโรงเรียน คณะครู หรืออาจารย์ จะต้องชัดเจน แจ้งให้เด็ก ๆ ทราบว่าสิ่งใดถูกหรือไม่ถูก เพราะโรงเรียนเป็นสถานที่ราชการ มีนักเรียนอยู่จำนวนมาก ย่อมมีความคิดไม่เหมือนกัน การชูมือ 3 นิ้วเป็นเสรีภาพจริง แต่การทำอะไรก็ตามหรือส่งเสียงก็ถือว่าไปเบียดบัง ก้าวล่วงสิทธิเสรีภาพของคนอื่นเช่นกัน เพราะฉะนั้นการเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ถ้าเริ่มต้นผิดกระบวนการของกฎหมาย การเปลี่ยนจะไม่ชอบธรรม” นายสนธิญา กล่าว
เมื่อถามว่าการมายื่นข้อเรียกร้องเช่นนี้ เป็นการปิดกั้นการนัดชุมนุมครั้งใหญ่ที่จะมีขึ้นหรือไม่ นายสนธิญา กล่าวว่า ถ้าการจัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 19 กันยายนนี้ กระทำตามกระบวนการกฎหมาย ขออนุญาตตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเมื่อใดที่ชุมนุมแล้ว บนเวทีมีกระบวนการจาบจ้วงหรือเรียกร้องพาดพิงไปถึงสถาบันต่าง ๆ โดยเฉพาะสถาบันพระมหากษัตริย์ จำเป็นจะต้องร้องศาลรัฐธรรมนูญ.-สำนักข่าวไทย