“พริษฐ์” ยัน​พรรคประชา​ชน ไม่ลงถนน​

รัฐสภา 27 พ.ย.-“พริษฐ์” ยัน​พรรคประชา​ชน​ ยึดหลักตรวจสอบรัฐบาลผ่านกลไกสภา​ ไม่ลงถนน​ หลัง​ “ณัฐวุฒิ” ประเมิน​ มวลชนพรรคประชาชนบางส่วนจะร่วมกับ “สนธิ”

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า ภายหลังจากที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ประกาศจะมีการเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาล ซึ่งอาจมีมวลชนจากฝั่งของพรรคประชาชนเข้าร่วมด้วย ว่า เป็นการคาดการณ์ของนายณัฐวุฒิเอง ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าเองจากข้อมูลอะไร แต่ในมุมของพรรคประชาชนเราทำหน้าที่ในฐานะแกนนำพรรคฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และอีกมุมคือการทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลในทุกๆ เรื่องที่สังคมสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม เรื่องเอ็มโอยู 44 เรื่องที่ดินเขากระโดง ซึ่งเราใช้กลไกสภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล และพยายามทำเต็มที่ในการผลักดันวาระเชิงนโยบายของพรรคผ่านกลไกสภาและเสนอร่างกฎหมาย และมีกฎหมายหลายฉบับที่ผ่านความเห็นชอบของสภาได้ ซึ่งหากประชาชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งจะแสดงออกทางการเมืองผ่านการชุมนุม ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามระบอบประชาธิปไตยที่ประชาชนสามารถชุมนุมกันได้ ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมที่พรรคประชาชนจะเห็นด้วยหรือไม่ ฃก็ตาม แต่หวังว่าการแสดงออกทางการเมืองในการชุมนุมดังกล่าว จะไม่ไปละเมิดหลักการขั้นพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตยด้วยเช่นกัน


“วันนี้ชัดเจนว่าพรรคประชาชน เราไม่ได้มีความพยายามเคลื่อนไหวอะไรนอกสภา หรือในลักษณะของการชุมนุม แต่เรามีความชัดเจนว่าเราทำงานผ่านกลไกสภา เพื่อตรวจสอบรัฐบาล และผลักดันการเปลี่ยนแปลง” นายพริษฐ์ กล่าว

ทั้งนี้แม้ว่านายสนธิสามารถปลุกกระดมมวลชนได้ขึ้นมาจริงๆ ท่าทีของพรรคประชาชนก็จะยังไม่เปลี่ยนหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า เวลานี้พรรคประชาชนก็เดินหน้าทำงานเต็มที่ในสภา แต่ถ้าประชาชนกลุ่มไหน ไม่ใช่เพียงกลุ่มของนายสนธิ หรือใครก็ตาม ต้องการจะเรียกร้องอะไร ก็เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในการชุมนุม ส่วนการชุมนุมจะมีคนมาสนับสนุนมากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับประเด็นที่มีการเรียกร้องและการทำหน้าที่ของรัฐบาลด้วย แต่พรรคประชาชน ย้ำว่าเดินหน้าทำงานผ่านกลไกสภาในการตรวจสอบรัฐบาล


ส่วนจะยืนยันได้หรือไม่ว่า สส.พรรคประชาชน จะไม่ลงถนน​ นายพริ​ษฐ์​ ยืนยัน คำเดิมว่าพรรคประชาชนเดินหน้าทำงาน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลผ่านกลไกสภาผู้แทนราษฎร

นายพริ​ษฐ์​ ยังกล่าวถึง กรณี การยื่นคำร้องถอนหลักประกัน นางสาวรัชนก​ ศรีนอก​ หลังจากที่เดิมใช้หลักประกัน ตำแหน่ง สส​. ของนายชัยธวัช​ ตุลา​ธน​ แต่นายชัยธวัชหลุดจากตำแหน่งในการยุบพรรคก้าวไกล จึงทำให้ต้องมีการเปลี่ยนหลักประกัน​ ว่า​ ได้มีการเปลี่ยนหลักประกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้เป็นไปตามหลักของกฎหมาย แต่ไม่ทราบในรายละเอียดว่าหลักประกันที่เปลี่ยนนั้นเป็นอะไร แต่หลังจากนี้ก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ​.-315.-นักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล