“ประเสริฐ” เชื่อ MOU 44 จุดไม่ติด “สนธิ” ประกาศลงถนน

ทำเนียบ​ 28 พ.ย.-“ประเสริฐ” เผยแกนนำเพื่อไทยจับตา-ประเมิน “สนธิ” ประกาศลงถนนบุกทำเนียบตลอดเวลา เชื่อบริบทการเมือง-ความรู้สึกเปลี่ยน ประเด็น MOU 44 จุดไม่ติด

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล เตรียมเดินทางมาทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึงนายกฯ ในเรื่อง MOU 44 ในวันที่ 9 ธันวาคม และประกาศพร้อมลงถนน ในฐานะรัฐบาลเป็นห่วงเรื่องนี้หรือไม่ ว่า เป็นมุมมองของนายสนธิ และเข้าใจว่าเรื่องนี้มีวิธีอื่นที่จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ดีกว่านี้ เช่น การพูดคุยกัน เพราะในเรื่องที่จะนำมวลชนมาเหมือนในอดีต วันนี้บริบททางการเมืองเปลี่ยนไปในระดับหนึ่งแล้ว และเรื่องนี้เริ่มต้นจากการที่รัฐบาลทำถูกใจบ้างไม่ถูกใจบ้าง ขอให้มีการแลกเปลี่ยนและพูดคุยกันจะเป็นประโยชน์มากกว่า


ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของรัฐบาล ใครจะเป็นคนพูดคุยกับนายสนธิ นายประเสริฐ ระบุว่า เรื่องนี้ยังไม่ทราบ แล้วแต่ว่าจะมอบหมายใคร

ส่วนการที่นายสนธิหยิบประเด็นเรื่อง MOU 44 ขึ้นมา จะเป็นการปลุกระดมประชาชนขึ้นมาได้มากน้อยแค่ไหน นายประเสริฐ กล่าวว่า จริงๆ แล้วเรื่องนี้รัฐบาลยังไม่ได้ทำอะไรเสียหาย และรัฐบาลได้ชี้แจงตลอดเวลา นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีหลายท่านก็เคยให้ข่าวเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ตนคิดว่า รัฐบาลยังไม่ได้ทำอะไรที่ส่งผลกระทบ หากนำเรื่องนี้มา ก็ยังไม่ใช่ประเด็นที่จะนำไปสู่การลงถนนหรืออะไรต่างๆ พร้อมยืนยันว่า เรื่องนี้แกนนำพรรคเพื่อไทยได้มีการพูดคุยและประเมินตลอดเวลา ซึ่งเรื่องของการเมืองต้องมีการวางยุทธศาสตร์ และจับตาดูสถานการณ์ พร้อมย้ำว่ารัฐบาลได้ชี้แจงเรื่องนี้ไปแล้ว


ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า มีความเป็นห่วงในเรื่องนี้หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ถามว่าห่วงไหม ก็ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเป็นประเด็น แต่อยางไรก็ตามในการปกครองความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน รัฐบาลทำอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ไม่ควรเป็นเหตุ

ส่วนที่นายสนธิ ร้างลาจากเวทีนี้ไปนานจะจุดติดหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า บริบททางการเมืองและความรู้สึกของประชาชนเปลี่ยนไปแล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องดังกล่าวเรามาตัดสินด้วยเหตุและผลกันดีกว่า.-319​.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]