ไฟไหม้ตึกแถวเมืองหาดใหญ่ เงินสด 5 แสนโดนเผาวอด

สงขลา 19 ส.ค. – ไฟไหม้ตึกแถว 2 ชั้น เป็นร้านทำหมูแดงหมูกรอบขายส่งในเมืองหาดใหญ่ จ.สงขลา ช่วยอาม่าอายุ 70 ปี นอนหลับอยู่ในห้องคนเดียวออกมาได้ทัน ความเสียหายไม่ต่ำกว่า 3 ล้าน เงินสดกว่า 500,000 บาท ถูกไฟไหม้ไม่เหลือ รวมทั้งทรัพย์สินที่อยู่ในตู้เซฟอีกนับล้าน ยังเปิดไม่ได้


เมื่อช่วงตี 5 วันนี้ เกิดเหตุไฟไหม้ภายในซอยสุนทรและเพื่อน ถนนราษฎร์อุทิศ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ซึ่งเป็นซอยที่ตั้งอยู่ด้านหลังธนาคารออมสิน ตรงข้ามชุมชนไทยโฮเต็ล โดยจุดเกิดเหตุเป็นตึกแถว 2 ชั้น ต้นเพลิงเกิดจากบ้านเลขที่ 3 ไฟได้ลุกไหม้จากชั้นสองอย่างรุนแรง ลุกลามไปยังบ้านเลขที่ 5 ซึ่งเป็นบ้านที่ทะลุติดกันทั้งสองหลัง

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลนครหาดใหญ่ระดมรถดับเพลิง 10 คัน ผลัดเปลี่ยนมาฉีดน้ำดับไฟท่ามกลางความโกลาหลทั้งซอย เพื่อนบ้านข้างเคียงต้องพากันออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงได้ แต่ยังต้องฉีดน้ำเลี้ยงตลอดเวลาจนถึงเช้า


จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ต้นเพลิงเกิดที่ห้องกลางชั้นสอง มีเครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้งเครื่องซักผ้า ตู้เย็นและเครื่องใช้อื่นๆ ก่อนจะลุกลามไปชั้นสองซึ่งใช้เป็นห้องพัก ได้รับความเสียหายทั้งหมด รวมทั้งบ้านเลขที่ 5 ซึ่งทะลุติดกันเสียหายอีกบางส่วน ขณะเกิดเหตุอาม่าอายุประมาณ 70 ปี นอนหลับอยู่ที่ห้องนอนชั้นลอยระหว่างชั้น 1 กับชั้น 2 หลานชายที่เป็นเจ้าของบ้านกลับมาทันขึ้นไปพาลงมาได้ปลอดภัย ส่วนสาเหตุยังอยู่ระหว่างการสอบสวน เบื้องต้นคาดว่ามาจากไฟฟ้าลัดวงจร

ส่วนความเสียหาย นายธนพัฒน์ หลีกุลยศ อายุ 28 ปี เจ้าของบ้าน บอกว่าไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท มีเงินสดจำนวน 530,000 บาท ที่วางอยู่บนโต๊ะคอมพิวเตอร์ชั้น 2 ถูกไฟไหม้ทั้งหมด รวมทั้งคอมพิวเตอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ที่เก็บไว้ที่ชั้น 2 และทรัพย์สินอื่นๆ อีกจำนวนมาก

นายธนพัฒน์ บอกว่า ที่บ้านเปิดเป็นร้านทำหมูกรอบหมูย่างส่งขายใน อ.หาดใหญ่ พักอยู่ด้วยกัน 4 คน คือ ตนเอง ภรรยา ลูกสาว อายุ 2 ขวบ และอาม่า ตอนเกิดเหตุตนกับภรรยาและลูกสาวออกไปส่งหมูที่ตลาด เพื่อนบ้านโทรศัพท์มาบอกว่าเกิดไฟไหม้บ้าน จึงรีบกลับมาดู เปิดประตูขึ้นไปปลุกอาม่าที่นอนหลับอยู่ในห้องพาลงมาได้ และจะกลับขึ้นไปบนชั้นสองเพื่อยกตู้เซฟแต่ไฟลุกโชนขึ้นมาอย่างแรงเข้าไปไม่ได้ หลังจากนี้พนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่วิทยาการจะเข้าตรวจสอบหาเสาเหตุของไฟไหม้อย่างละเอียดอีกครั้ง. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง