จับตานโยบายใหม่ฟื้นเศรษฐกิจจากโควิด-19

กรุงเทพฯ 6 ส.ค. – นายกรัฐมนตรียอมรับเศรษฐกิจไทยปีนี้อาจติดลบใกล้เคียงร้อยละ 10 เร่งหามาตรการใหม่พยุงหลังคาดโควิด-19 กระทบโลกยาวนาน 2-3 ปี เอกชนเตรียมกระทุ้งมาตรการใหม่ผ่านรัฐมนตรีเศรษฐกิจคนใหม่ ขณะนี้รอ รมว.พลังงานตัดสินใจโรงไฟฟ้าชุมชนและการนำเข้าแอลเอ็นจีของผู้ประกอบการรายใหม่


นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ได้เปิดเผยว่า นโยบายการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เสรี แม้ว่าทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะให้ใบอนุญาตประกอบการกิจการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (Shipper LNG) ให้กับผู้ประกอบการรายใหม่ เช่น กลุ่ม กัลฟ์ และบีกริม แล้ว แต่ สนพ.จะต้องรอนโยบายจากรัฐมนตรีว่าการทรวงพลังงานคนใหม่ จากนั้นจะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) พิจารณาต่อไป  หากไม่มีอะไรติดขัดก็น่าจะเห็นการนำเข้า LNG ของรายใหม่ได้บ้างภายในปีนี้ โดยการนำเข้าต้องรับฟังข้อสรุปจากทาง บริษัท PTTLNG  ผู้บริหารท่าเทียบเรือและสถานีรับ-จ่าย Map Ta Phut LNG Terminal  รวมทั้งต้องดูสัญญาก๊าซของ ปตท.ด้วยว่าจะเกิดปัญหาการจ่ายค่าก๊าซตามสัญญาไม่ว่าจะใช้ก๊าซหรือไม่ก็ตาม (Take or pay) หรือไม่ เพราะหากนำเข้ามาก็อาจจะกระทบต่อค่าไฟฟ้าของประชาชน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้ปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “พลิกฟื้นประเทศไทย : ก้าวต่อไปอย่างมั่นคง” ในงานครบรอบ 74 ปี หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์  โดยกล่าวตอนหนึ่งว่าตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2557 จะเห็นได้ว่าเศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ อัตราการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจปี 2557 อยู่ที่เพียงร้อยละ 1.0 เพราะมีปัญหาความขัดแย้ง ความไม่มีเสถียรภาพ แต่ก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เป็นร้อยละ 3.1 และร้อยละ 3.4 ในปี 2558 และ 2559 จากนั้นก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จนเมื่อถึงปี 2563 ประเทศไทยเผชิญปัญหาสำคัญ ทั้งเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจภายในประเทศ ที่ต้องเผชิญวิกฤตการณ์ ทั้งการค้า การลงทุนต่างประเทศ สิ่งสำคัญที่สุด คือ การแพร่ระบาดของโควิด-19  ซึ่งทุกคนทราบดีว่าสถานการณ์เศรษฐกิจอยู่ในช่วงถดถอยทั้งโลก ประเทศไทยที่ว่าแย่ แต่ก็ยังมีหลายประเทศที่แย่มากกว่า ดังนั้น จึงขออย่าท้อแท้ ต้องทำให้ดีและฟันฝ่าอุปสรรคไปให้ได้ ทุกคนต้องอดทนบ้าง และคาดว่าจากปีนี้จนถึงปีหน้าและปีต่อไปอีก 2 หรือ 3 ปี กว่าจะทุกอย่างจะกลับมาฟื้นฟูเข้มแข็งได้ จึงต้องหาวิธีการแก้ไขปัญหา ซึ่งความร่วมมือและความเข้าใจเป็นสิ่งสำคัญ ลดความขัดแย้งในหลาย ๆ ประเด็น สร้างความมีเสถียรภาพเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นทั้งภายในและภายนอกประเทศ


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ประเทศไทยมีเสถียรภาพเรื่องการเงินการคลัง ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง ทั้งดุลบัญชีเดินสะพัด ทั้งในส่วนของกองทุนสำรองระหว่างประเทศมีผลทำให้มีดอลลาร์เข้ามาใช้จ่ายในประเทศจำนวนมาก ทำให้เกิดดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล สิ่งเหล่านี้จะทำให้ค่าเงินของเราแข็งพอสมควร  แต่ก็จำเป็นต้องมีมาตรการที่ระมัดระวัง ทั้งมาตรการการเงินสมัยใหม่ที่ต้องเสริมเข้ามา

“คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) จะติดลบไม่ถึง 10% น้อยกว่าประเทศอื่น ๆที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และเศรษฐกิจบางประเทศจะติดลบมากถึง 20 – 30% หากภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวมากขึ้นการติดลบของเศรษฐกิจก็ลดลง ซึ่งการที่เศรษฐกิจไทยติดลบน้อยกว่าประเทศอื่น ๆนั้น เนื่องจากสามารถรับมือกับการระบาดได้ดีและมีพื้นฐานเศรษฐกิจที่เข้มแข็งมีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดยังมีเงินดอลลาร์ที่เข้ามาใช้จ่ายในประเทศมาก ทำให้เงินบาทแข็งค่า ซึ่งเรื่องนี้จะมีการหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อย่างระมัดระวัง ซึ่งอาจจะต้องมีมาตรการทางการเงินเพิ่ม” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ภาคการส่งออกต้องยอมรับว่าต้องหาตลาดส่งออกทดแทนตลาดเดิมและใช้จุดเด่นสินค้าที่มีความได้เปรียบ  เช่น สาธารณสุข เครื่องมือแพทย์ สินค้าเกษตร เพื่อสร้างโอกาสในการสร้างเศรษฐกิจในประเทศ เพิ่มการจ้างงาน การช่วยเหลือเอสเอ็มอี ขณะที่เรื่องหนี้สินภาคครัวเรือนก็ต้องจับตา เพราะขณะนี้หนี้ครัวเรือนที่เป็นส่วนบัตรเครดิต หนี้เพื่อการบริโภคก็สูงถึง 40% ส่วนอีก 60% เป็นหนี้จากการซื้อรถ ที่อยู่อาศัย และหนี้เพื่อการสร้างอาชีพส่วนนี้ต้องดูว่าจะให้ความช่วยเหลือลดภาระประชาชนได้อย่างไร รวมถึงการจัดการหนี้เดิมที่มีอยู่ อาทิ มาตรการพักเงินต้น ลดดอกเบี้ย และขยายระยะเวลาชำระหนี้แก่ลูกหนี้ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาผลกระทบให้ประชาชนสามารถดำรงชีพอยู่ได้ในช่วงของการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยภาครัฐได้ออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือและเยียวยาประชาชน เช่น มาตรการการลดภาระค่าใช้จ่ายครัวเรือนของประชาชน เช่น การลดค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า การสนับสนุนเงินให้แก่ประชาชนกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบ เช่น ลูกจ้างรายวัน มัคคุเทศก์ ผู้ประกอบการท่องเที่ยว  เพื่อให้ทรัพยากรของภาครัฐเพียงพอต่อการพยุงสถานการณ์เศรษฐกิจและรักษาเสถียรภาพในระยะเร่งด่วนรัฐบาลจึงได้ตรา พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 วงเงิน 1 ล้านล้านบาท


นายสุพันธ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวภายหลังรับฟัง นายกรัฐมนตรี โดยให้ความเห็นถึงรายชื่อรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ทั้งนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน และนายปรีดี ดาวฉาย รมว.คลัง ต่างเป็นผู้คุ้นเคยที่ทำงานร่วมกันทั้งใน ส.อ.ท. และในคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) ซึ่งรู้ปัญหา ด้านเศรษฐกิจต่าง ๆ มาเป็นอย่างดี และจากปัญหาผลกระทบจากโควิด-19 ที่ขณะนี้เกิดการระบาดรอบ 2 ในหลายประเทศ ซึ่งกระทบหนักมายังประเทศไทยทั้งการส่งออก การท่องเที่ยว และอื่น ๆ  ดังนั้น  กกร.และตัวแทนสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือ แห่งประเทศไทย สภาธุรกิจตลาดทุนไทย ได้ตั้งคณะทำงานฟื้นฟูเศรษฐกิจเพื่อรวบรวมปัญหาทางออกทั้งหมด และนำไปหารือกับ รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจคนใหม่ โดยจากที่ผลกระทบยืดเยื้อ ดังนั้น ภาครัฐควรจะมีมาตรการใหม่ ๆ เพิ่มเติมออกมา รวมทั้งยืดเวลามาตรการเดิม เช่น การเพิ่มกระแสเงินสด การยืดการพักชำระหนี้ เพื่อให้ทั้งประชาชน ผู้ประกอบการ มีเงินทั้งการดำรงชีพและบริหารงาน เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤติเศรษฐกิจที่หนักสุดไปได้

“นโยบายด้านเศรษฐกิจเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจากโควิด-19 ต้องเร่งทำทุกด้าน อะไรที่เป็นของดีก็ควรทำต่อ เช่น เดินหน้าโรงไฟฟ้าชุมชม การเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินของภาครัฐ การใช้เงินตามกรอบ พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท เพื่อให้กระจายเม็ดเงินสู่สังคม สู่รากหญ้า ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเร็ว รวมทั้งต้องมีมาตรการใหม่ ๆ กระตุ้นด้านท่องเที่ยว ด้านส่งออก ซึ่งรัฐมนตรีหลายคนก็เปลี่ยนหมวกจากเอกชนมา คาดว่าจะรู้ปัญหาและทำงานร่วมกันเอกชนในการคลายล็อกต่าง ๆ และฟื้นฟูเศรษฐกิจ” นายสุพันธุ์ กล่าว. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็น-อีสานอุณหภูมิลดลงอีกเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อยในภาคอีสาน ส่วนภาคเหนือตอนบน ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : ส่องทิศทางแห่งอำนาจ “รัฐบาลทรัมป์ 2.0”

รายงานพิเศษวันนี้ไปติดตามสิ่งที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัญญาหาเสียงเอาไว้ ที่จะทำให้พอเห็นทิศทางการครองอำนาจของเขา โดยมีหลายอย่างที่จะสร้างความสั่นสะเทือนอย่างมาก