กรุงเทพฯ 4 ส.ค.- มีการระดมความคิดและแนวทางปรับการดำเนินงาน หลังเกิดกรณีฟ้องร้องจากการผลิตภาพยนตร์กึ่งสารคดี “นกเงือกเทือกเขาบูโด”
เวทีเสวนาหัวข้อ “พัฒนากองทุนพัฒนาสื่อสร้างสรรค์” ที่มีนายธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์, น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ อดีตกรรมการ กสทช.,นายชาญ สร้อยสุวรรณ ตัวแทนเครือข่ายเพื่อนจืดและผู้รับทุนกองทุนสื่อฯ, นายศศิน เฉลิมลาภ ประธานคณะกรรมการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร นักสื่อสารด้านสิ่งแวดล้อม ร่วมเสวนา
หลังเกิดปัญหากรณีศึกษาของนายเข็มทอง โมราษฎร์ หรือจืด กลุ่มเด็กรักป่า และผู้กำกับภาพยนตร์ “นกเงือกเทือกเขาบูโด” เดินตามทางรถไฟจาก จ.สุรินทร์ มายังกรุงเทพฯ รวมเวลา 22 วัน เพื่อไปแก้ข้อกล่าวหา หลังถูกกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยฯ ฟ้องศาลปกครองว่า ไม่ส่งงานตามงวดและเรียกเงินคืน 800,0000 บาท จากการที่ทางกองทุนฯ ให้ทุนผลิตภาพยนตร์กึ่งสารคดี “นกเงือกเทือกเขาบูโด” เมื่อปี 2560-2561 วงเงิน 2 ล้านบาท ทำสัญญาแบ่งจ่าย 4 งวด งวดแรก 10% อีก 3 งวด งวดละ 30%
ทั้งนี้ เพื่อแสดงออกถึงการต่อสู้เรียกร้องขอความเป็นธรรม และอยากให้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบระบบการบริหารงานของกองทุนดังกล่าวด้วยว่า มีความโปร่งใส เป็นธรรม และจริงใจในการทำสื่อแบบสร้างสรรค์จริงหรือไม่ นับเป็นกรณีศึกษาที่สำคัญยิ่ง ทั้งในแง่ตีความที่มีการฟ้องร้องระหว่างกองทุนและคู่สัญญาเป็นครั้งแรก และประเด็นบทบาทการทำงานของกองทุนพัฒนาสื่อฯ อันเป็นสาธารณประโยชน์ เครือข่ายคนทำงานด้านสื่อชุมชน สื่อสร้างสรรค์สังคม
นายเข็มทอง หรือ จืด กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาที่กองทุนฯ ไม่เข้าใจรายละเอียดการทำงาน คนที่ได้รับทุนในแต่ละพื้นที่ ว่ามีความยากลำบากมากน้อยแค่ไหน และมีปัญหาเบิกจ่ายเงินล่าช้า
ด้านนายชาญ หนึ่งในผู้รับทุนจากกองทุนดังกล่าว สะท้อนทั้งเรื่องที่ดี และเรื่องที่กองทุนฯ ควรปรับแก้ไข โดยในแง่ดีนั้นมองว่ากองทุนฯ เปิดโอกาสให้สื่ออื่น เช่น สื่อศิลปะ เข้ามาร่วมรับทุน และควรปรับกระบวนการทำงาน ที่มีการอ้างอิงเอกสารสัญญาต่างๆ มากเกินไป ทำให้เกิดการสูญเสียงานที่ทำไว้ก่อนหน้านี้
ขณะที่ นายธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการสำนักงานกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เชื่อมั่นว่ากรณีปัญหาของนายเข็มทอง หรือจืด ศาลปกครองจะให้ความเป็นธรรมได้.-สำนักข่าวไทย