“พล.ต.ท.เรวัช” เร่งสอบประมูลจัดจ้างขุดเหมืองแม่เมาะเสร็จ ม.ค.นี้

กรุงเทพฯ 10 ม.ค. – กฟผ.พร้อมให้ความร่วมมือตรวจสอบความโปร่งใส กรณีงานจ้างขุด-ขน ถ่านหินแม่เมาะ ด้าน “พล.ต.ท.เรวัช” ระบุจะเร่งสอบให้เสร็จ ม.ค.นี้ ด้าน รมว.พลังงาน ระบุระงับ 3 เรื่องพลังงาน เป็นเรื่องเกิดก่อนรัฐบาลชุดนี้


การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แจ้งความคืบหน้ากรณีที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มีหนังสือสั่งให้ กฟผ. ระงับการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างงานจ้างเหมาขุด – ขน ถ่านหินที่เหมืองแม่เมาะ จังหวัดลำปาง สัญญาที่ 8/1 ในวงเงินงบประมาณ 7,250 ล้านบาท โดย กฟผ.อยู่ระหว่างการพิจารณาอุทธรณ์ผลการจัดซื้อจัดจ้าง ตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุที่เกี่ยวกับการพาณิชย์โดยตรง

ล่าสุดรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว ซึ่งมี พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร เป็นประธานกรรมการสอบสวน และได้มีหนังสือเชิญผู้ว่าการ กฟผ. หรือผู้แทนเข้าให้ข้อมูลข้อเท็จจริง ซึ่งผู้แทน กฟผ. ได้เข้าพบชี้แจงข้อมูลแล้วเมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา ขณะนี้ กฟผ.อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล เพื่อส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม โดย กฟผ.ยินดีและพร้อมให้ความร่วมมือในการตรวจสอบของคณะกรรมการฯ เพื่อความชัดเจน ถูกต้อง โปร่งใส ในการดำเนินงาน และให้กระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นไปอย่างราบรื่น เสร็จทันตามกำหนดเวลา


พล.ต.ท.เรวัช ระบุผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ว่า ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการสอบสวนตั้งแต่ 25 ธ.ค.67 หลังจากนั้น เรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องทันทีทั้งเจ้าหน้าที่ กฟผ. บริษัทที่ร้องเรียน บริษัทที่ได้รับการคัดเลือก ยันจะเร่งสรุปเพื่อเสนอ รมว.พลังงาน ภายในเดือน ม.ค.68

“ผมรับฟังทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งบริษัทที่ร้องเรียน และผู้ชนะประมูล โดยดูข้อกฎหมายรอบด้านว่าไปตามตรงผิดก็ว่าผิด ถูกกฎว่าถูก ไม่มีใครแทรกแซงการทำงาน” พล.ต.ท.เรวัช ระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ส่งหนังสือ ถึง กฟผ. ระงับการจัดซื้อจัดจ้างการขุดและขนลิกไนต์ด้วยวิธีพิเศษมูลค่า 7,250 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานจ้างเหมาขุด-ขนถ่านหินที่เหมืองแม่เมาะสัญญาที่ 8/1 ที่ บริษัท สหกลอิควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SQ ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะการประมูล แต่บริษัท อิตาเลียน ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือITD ยื่นอุทธรณ์ขอความเป็นธรรม และ พลโท ดร. เจียรนัย วงศ์สอาด กรรมการการ กฟผ. ก็คัดค้าน โดยยื่นหนังสือ ถึง รมว.พลังงาน ลงวันที่ 12 พ.ย. 2567 และในขณะที่ไอทีทียื่นหนังสืออุทธรณ์ขลงวันที่ 15 พ.ย.2567 จึงเป็นที่มาการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จ อย่างไรก็ตาม กรณีนี้หากไม่เร่งพิจารณาไทยต้องนำเข้าก๊าวแอลเอ็นจีมาผลิตไฟฟ้าทดแทนถ่านหินประเมินกันว่าจะกระทบค่าไฟฟ้าชาวบ้านราว 8 สตางค์ต่อหน่วย


ในเพจเฟซบุ๊กพรรครวมไทยสร้างชาติ นายพีระพันธุ์ ชี้แจงสาเหตุของการที่ช่วงนี้หลายโครงการถูกสั่งทบทวน สั่งระงับ ไม่ว่าจะเป็นการระงับการจัดซื้อจัดจ้างการขุดและขนลิกไนต์ด้วยวิธีพิเศษมูลค่า 7,250 ล้านบาท ของ กฟผ. การระงับกระบวนการสรรหาคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) การระงับการประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดเฟสสอง 3,600 เมกะวัตต์ อาจสร้างความเป็นห่วงว่าจะกระทบต่อค่าไฟ ทำให้การดำเนินการของ กกพ.ชะงัก หรือส่งผลกระทบต่อการจัดหาไฟฟ้าสะอาดที่ไม่เพียงพอและไม่ทันการณ์ ว่า ทุกเรื่องเพิ่งเกิดขึ้นไล่ ๆ กันในช่วงนี้เท่านั้น ไม่ใช่เกิดมานานแล้วเพิ่งมาสั่ง เข้าใจถึงเรื่องความจำเป็นรีบเร่ง แต่ความรีบเร่งไม่ใช่ว่าทำให้สามารถทำอะไรที่อาจไม่ถูกต้องได้ กรณีของปัญหาการประมูลขุดถ่านหินที่เหมืองแม่เมาะ ไม่ใช่เพิ่งจะทำ ทำกันมานานแล้ว เมื่อทราบเรื่องก็กำชับไปว่าให้ทำให้ถูกต้อง ผิดพลาดขึ้นมามีการร้องเรียนแล้วจะส่งผลกระทบทำให้เกิดความล่าช้า

“ใครชนะใครแพ้ใครได้งาน ไม่ใช่เรื่องของผม แต่กระบวนการและขั้นตอนต้องถูกต้องโปร่งใส ผมเข้าใจดีถึงสาเหตุและความจำเป็นที่ต้องเร่งรีบในการดำเนินการของทุกหน่วยงาน แต่ความเร่งรีบมันต้องทำให้โปร่งใสด้วย สุดท้ายก็มีการร้องเรียนจริงๆ ถ้ากลัวความล่าช้าทำไมไม่ทำให้ถูกต้องโปร่งใสแต่แรกจะได้ไม่มีการร้องเรียน พอทำผิดพลาดมีการร้องเรียนมาอ้างความล่าช้า ผมเป็นรัฐมนตรีที่กฎหมายกำหนดให้ต้องกำกับดูแลให้ กฟผ. ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลและมีอำนาจสอบสวนข้อเท็จจริงต่างๆ รัฐบาลมีนโยบายไม่ให้เกิดการทุจริตประพฤติมิชอบ เมื่อมีผู้ร้องเรียนผมไม่ดำเนินการผมก็มีความผิดเอง” รัฐมนตรีพลังงาน ระบุ

ส่วนเรื่องการสรรหากรรมการ กกพ. เมื่อสำนักงานคณะกรรมการ กกพ.ดำเนินการไปก็มีการแจ้งมาว่าไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และระเบียบที่ใช้อยู่ก็ไม่สอดคล้องกับกฎหมายปัจจุบัน ซึ่งเคยกำชับให้หารือกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาก่อน ก็ได้รับแจ้งว่าหารือแล้ว พอมีการแจ้งมาถึงความผิดพลาดสอบถามอีกทีบอกว่าไม่ได้สอบถามกฤษฎีกา แล้วจะให้ทำอย่างไร

ขณะที่การประมูลไฟฟ้าพลังงานสะอาด 3,600 เมกะวัตต์นั้น เป็นเรื่องเดิมตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2566 ก่อนที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีพลังงาน เมื่อเข้ามาก็ไม่เคยมีเรื่องนี้มาหารือกันในที่ประชุม กพช. เลย ทั้งตนเองและนายกรัฐมนตรี ที่เป็นประธาน กพช. ทั้งนายเศรษฐา ทวีสิน และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร จึงไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อน ต่อมาประมาณกลางปี 2567 ปลัดกระทรวงพลังงาน และฝ่ายเลขาของคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มีตนเองเป็นประธาน ซึ่งเป็นเหมือนคณะอนุกรรมการของ กพช. ก็นำเรื่องมาหารือว่าจะต้องมีการประมูลพลังงานไฟฟ้าสะอาด 1,500 เมกะวัตต์ ซึ่งเดิมกำหนดไว้ให้ผู้ที่เคยเข้าประมูลไฟฟ้าพลังงานสะอาดโครงการแรก 5,000 เมกะวัตต์ แต่ไม่ได้งานให้เป็นผู้มีสิทธิได้งานส่วนนี้ แต่เห็นว่าควรจะเปิดประมูลใหม่มากกว่า จึงเห็นด้วยและให้นำเรื่องเข้าที่ประชุม กพช. แต่รับแจ้งว่าเรื่องนี้ กพช. มอบอำนาจให้ กบง. พิจารณาได้เลย

ดังนั้น จึงนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุม กบง. ต่อมาทราบว่า 1,500 เมกะวัตต์นี้เป็นส่วนหนึ่งของ 3,600 เมกะวัตต์ ที่ถูกแบ่งเป็นสองส่วนคือ 2,100 เมกะวัตต์ กับ 1,500 เมกะวัตต์ โดยในส่วน 2,100 เมกะวัตต์คณะกรรมการ กพช. มีมติให้ กกพ. นำไปดำเนินการโดยให้สิทธิแก่ผู้ที่ไม่ได้งานในส่วน 5,000 เมกะวัตต์แรก ซึ่ง กกพ. ดำเนินการไประดับหนึ่งแล้วแต่ยังไม่เสร็จสิ้นกระบวนการ จึงเกิดข้อสงสัยว่าถ้า 1,500 เมกะวัตต์ กับ 2,100 เมกะวัตต์ มาจาก 3,600 เมกะวัตต์ เหมือนกัน ก็ควรกำหนดเงื่อนไขเหมือนกัน ในเมื่อ 1,500 เมกะวัตต์กำหนดใหม่ให้เปิดประมูลใหม่ และส่วนของ 2,100 เมกะวัตต์ ยังไม่เสร็จสิ้น ทำไมไม่แก้ไขให้หลักเกณฑ์เหมือนกัน และเหตุใดจึงต้องแบ่งเป็น 2,100 เมกะวัตต์ กับ 1,500 เมกะวัตต์ พยายามสอบถามทุกๆ ฝ่ายแต่ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน โดยเมื่อการประชุม บอร์ด กพช. ในวันที่ 24 ธันวาคม 2567 มีมติ ให้ทางการไฟฟ้าทั้งสามแห่งชะลอการทำสัญญารับซื้อไฟฟ้า 2,100 เมกะวัตต์ และให้หารือกฤษฎีกาถึงกรอบอำนาจของ กพช. ในเรื่องนี้

สรุป คือเรื่องนี้เกิดมาก่อนรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน และนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร แต่รัฐบาลปัจจุบันต้องรับผิดชอบทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ความเป็นมาเลย ก็ต้องชะลอเรื่องและตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก็เดินหน้ากันต่อก็เท่านั้น. -511- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

14 รมต.ใหม่ เข้าทำเนียบถ่ายรูป ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ

ทำเนียบ 3 ก.ค.- ชื่นมื่น! 14 รมต.ใหม่ เข้าทำเนียบฯ ตั้งแต่ช่วงเช้า ถ่ายรูปทำบัตรประจำตัว ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ “อรรถกร” มาถึงคนแรก ปิดท้ายด้วย “นายกฯ แพทองธาร” เตรียมประชุม ครม. นัดพิเศษในช่วงบ่าย แบ่งงานรองนายกฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล รัฐมนตรีใหม่ 14 คน ทยอยเดินทางมายังตึกสันติไมตรี เพื่อตรวจเอทีเค ถ่ายรูปทำบัตรประจำตัว ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ โดยเวลา 07.40 น. รัฐมนตรีที่เดินทางมาเป็นคนแรก คือ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรสหกรณ์ และ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากนั้น นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตามด้วย นายอนุชา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคเหนือ-อีสานตอนบน-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายภาค ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนล่างและเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง […]

กู้ร่างครบแล้ว เหตุไฟไหม้โรงงานทิชชู เสียชีวิต 10 ราย

สระบุรี 2 ก.ค. – เหตุไฟไหม้โรงงานกระดาษทิชชู ในนิคมเหมราช จ.สระบุรี ล่าสุดพบร่างที่ 10 ซึ่งเป็นร่างสุดท้าย ถือว่าภารกิจการค้นหาสิ้นสุดแล้ว ปฏิบัติการค้นหาร่างผู้สูญหายกว่า 50 ชั่วโมง ยุติลงแล้ว หลังเกิดเพลิงไหม้อาคารบริษัทผลิตกระดาษทิชชู ตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรม ดับบลิว เอช เอ ซอย 8 อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ช่วงเที่ยงวันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ทีมกู้ชีพ กู้ภัยร่วมกตัญญู กู้ภัยสว่างรัตนตรัย และกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกับฝ่ายปกครอง และชุดค้นหาเร่งระดมสรรพกำลัง ปูพรมค้นหาร่างผู้สูญหาย 10 คน นำโดยนายสันทัศน์ รันดาเว นายอำเภอหนองแค ลงพื้นที่เกาะติดการค้นหาผู้สูญหาย ช่วง 10.30 น. มีรายงานจากทีมค้นหามูลนิธิร่วมกตัญญู แจ้งว่า ที่ชั้นบนของอาคารเกิดเหตุ พบร่างผู้สูญหายอีก 1 ร่าง อยู่ในสภาพเหลือแต่กระดูกบริเวณชั้นที่ 2 ฝั่งตะวันตกของโรงงาน ถือเป็นผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้รายที่ […]

เร่งคลี่คลายคดีโจรฉกเงิน-ทองคำ วัดม่วง

กทม. 2 ก.ค. – ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีโจรวัดม่วง ลักเงินเจ้าอาวาส 10 ล้าน ทองคำ 250 บาท หายล่องหน ขณะที่อดีตพระคนสนิท เผยประตูกุฏิล็อกถึง 5 ชั้น เชื่อฝีมือคนใน พร้อมเรียกร้องตรวจสอบเงินบริจาควัด ความคืบหน้า เหตุคนร้ายย่องลักทรัพย์ เงิน 10 ล้าน-ทองคำหนัก 250 บาท ภายในกุฏิเจ้าอาวาส วัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค วันนี้ชุดสืบสวนของ บก.ปปป. ร่วมกับชุดคลี่คลายคดีของ สน.เพชรเกษม เดินทางไปที่วัดม่วงเพื่อตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติม แต่เมื่อเดินทางไปที่กุฎิเจ้าอาวาส ปรากฏว่า กุฏิปิดเงียบล็อกกุญแจจากด้านหน้า ไร้เงาเจ้าอาวาส เจ้าหน้าที่ ปปป. จึงพยายามโทรไปหาเจ้าอาวาสแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่อดีตพระคนสนิทเจ้าอาวาสวัดม่วง เปิดเผยว่า หลังปรากฏข่าว เจ้าอาวาสได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความว่าเงินและทองคำภายในกุฏิหาย ส่วนตัวตั้งข้อสังเกตว่ากุฏิดังกล่าวไม่มีรอยงัดแงะ และการจะเข้าไปภายในต้องผ่านประตูซึ่งล็อกถึง 5 ชั้น แทบไม่มีความเป็นไปได้ที่บุคคลอื่นจะเข้าไปได้ มองว่าตู้เซฟที่เก็บทรัพย์สินไว้นั้นมีขนาดใหญ่ การจะนำทรัพย์สินภายในออกไปน่าจะทำได้ยาก […]