กรุงเทพฯ 30 ก.ค. – “พีระพันธุ์” ส่งสัญญาณค่าไฟงวดสุดท้ายปี 68 (ก.ย.-ธ.ค.) น่าจะลดลงอยู่ที่ 3.95 บาท/หน่วย จากที่ กกพ.ระบุต่ำสุด 3.98 บาท/หน่วย ด้านสภาผู้บริโภคชี้ลดได้เหลือ 3.81 บาท/หน่วย หากยกเลิกแอดเดอร์พลังงานหมุนเวียน
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ค่าไฟงวดสุดท้ายของปีนี้ (ก.ย.-ธ.ค.68) มีแนวโน้มลดลงอีกจากที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ระบุอัตราต่ำสุด 3.98 บาท/หน่วย น่าจะอยู่ที่ประมาณ 3.95 บาท/หน่วย เนื่องจากการหารือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เรื่อง ค่าก๊าซธรรมชาติมีแนวโน้มลดลง และมีเงินบางส่วนที่สามารถนำมาช่วย เพื่อลดภาระต้นทุนพลังงานประชาชนได้ โดยล่าสุดมีข้อสรุปจาก กฟผ. ว่า สามารถปรับลดค่าไฟให้ต่ำลงมาได้อีก ซึ่ง กฟผ.จะมีหนังสือแจ้ง กกพ. เพื่อกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับงวดสุดท้ายของปีให้เป็นตามอัตราดังกล่าวต่อไป
“นอกจากจะสามารถเสนอให้ ครม.อนุมัติกฎหมายส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมาแล้ว ผมกำลังพยายามผลักดันให้มีการปรับลดค่าไฟฟ้าลงอีก ซึ่งจากการหารือกับ กฟผ. ก็ได้ข้อสรุปว่า มีแนวทางที่สามารถดำเนินการได้ โดยอาศัยว่าราคาก๊าซธรรมชาติเหลวในตลาดโลกปรับตัวลดลง และการนำเงินส่วนที่ กฟผ. กันไว้บางส่วน มาเป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าเพิ่มเติม ซึ่งเชื่อว่าประชาชนน่าจะได้รับข่าวดีในเร็ว ๆ นี้” นายพีระพันธุ์ กล่าว
นางรสนา โตสิตระกูล กรรมการนโยบายสภาผู้บริโภค ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านบริการสาธารณะ พลังงาน และสิ่งแวดล้อม กล่าวก่อนหน้านี้ว่าว่า กกพ. ควรดำเนินการตามขอบเขตอำนาจที่ทำได้เพื่อทำให้ราคาค่าไฟฟ้ามีความเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น และแสดงจุดยืนตามข้อเสนอที่เคยเสนอไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ผ่านการ ลดค่า Ft สำหรับงวดเดือน กันยายน – ธันวาคม 2568 ลง 17 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งจะส่งผลให้ค่าไฟ้ฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.81 บาทต่อหน่วย สภาผู้บริโภคไม่เห็นด้วยกับทั้ง 3 ทางเลือก ที่ กกพ.รับฟังความคิดเห็น (อัตราค่าไฟ 5.10 บาทต่อหน่วย , 4.87 บาทต่อหน่วย, 3.98 บาทต่อหน่วย) เพราะ กกพ. ควรลดค่า Ft ลง จำนวน 17 สตางค์ ตามที่เคยแถลงข่าวไว้ ผ่านการยกเลิกการกําหนดส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder) โดยเพิกถอนประกาศ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เรื่อง กรอบหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราค่าไฟฟ้า (Electric Tariff Regulatory Framework) พ.ศ. 2564 และประกาศคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เรื่อง กระบวนการ ขั้นตอนการใช้สูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ พ.ศ. 2565 เนื่องจากเป็นค่าใช้จ่ายของผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนส่วนน้อย ไม่ถึง 10% โดยไม่มีการระบุระยะเวลาการรับผิดชอบที่แน่ชัด ดังนั้น จึงถือเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่ต้นทุนที่แท้จริงและไม่เป็นธรรมกับผู้ใช้พลังงานรวมถึงผู้ประกอบการ สร้างภาระให้ประชาชนเกินสมควร
สภาผู้บริโภคมีข้อเสนอต่อ กกพ.ได้แก่ 1) ขอให้ กกพ. ปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องผลประโยชน์ของผู้ใช้พลังงาน รวมทั้งควรเร่งรัดให้เกิดการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างซึ่งส่งผลต่อราคาค่าพลังงานไฟฟ้า ที่สร้างผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าทุกกลุ่ม 2) ปรับปรุงโครงการโซลาร์ภาคประชาชน โดยกำหนดราคาแบบหักลบกลบหน่วยไฟฟ้า (Net Metering) สำหรับกลุ่มผู้ขอขนานไฟฟ้า (ฝากไฟฟ้าส่วนเกินไว้ และดึงกลับมาใช้งานในช่วงเวลาที่ไม่มีการผลิตไฟฟ้าบนหลังคา โดยไม่มีการขายไฟฟ้าคืน และปรับปรุงราคารับซื้อไฟฟ้าจากเดิม 2.20 บาทต่อหน่วยเป็นการรับซื้อไฟฟ้าในราคาเดียวกับ กฟผ.ขายให้กับ การไฟฟ้านนครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) สำหรับผู้ประสงค์ขายไฟฟ้าคืนตามโครงการโซลาร์ภาคประชาชนเดิม. -511-สำนักข่าวไทย