รัฐสภา 20 ก.ค. –ส.ว.ตั้งกระทู้เร่งรัฐบาลจัดการม็อบละเมิดสถาบัน หวั่นสร้างความแตกแยก เร่งควบคุมรายการผีทางทีวี สร้างความเชื่องมงาย บิดเบือนประวัติศาสตร์ ด้าน “เทวัญ” ทำหน้าที่ครั้งสุดท้ายก่อนลาออก ยันสั่งเอาผิดรายการช่องส่องผีทุกประตู ประสานทุกหน่วยงานเกี่ยวข้องพิจารณาแล้ว
การประชุมวุฒิสภา วันนี้(20 ก.ค. )พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุมโดยเปิดโอกาสให้สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)ตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี เรื่องการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยนายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา ตั้งกระทู้ถามด้วยวาจาเรื่องการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มเยาวชนปลดแอก เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา ว่า การชุมนุมดังกล่าวมีประเด็นที่สร้างความไม่สบายใจให้กับคนไทยอย่างมาก ที่เผยแพร่ภาพไม่เหมาะสมออกมาในเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับข้อเรียกร้องของการชุมนุม กระทบกระเทือนจิตใจของประชาชน ซึ่งการชุมนุมที่มีประเด็นลักษณะนี้ในประวัติศาสตร์เป็นเรื่องอันตราย อาจจะมีการชุมนุมจากอีกฝ่ายที่เห็นต่างขึ้นมาได้ จึงขอถามรัฐบาลว่ามีแนวทางการดูแลการชุมนุมให้สงบเรียบร้อยอย่างไร ไม่ให้บ้านเมืองกลับไปมีความขัดแย้งก่อนปี 2557 อีก
พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรีตอบกระทู้ถาม ยืนยันว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายกรัฐมนตรีห่วงใยผู้ชุมนุมอย่างมาก เนื่องจากอยู่ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเป็นห่วงเนื้อหาสาระในการแสดงออกของผู้ชุมนุมบางส่วน อาจทำให้ประชาชนส่วนใหญ่มีความรู้สึกไม่สบายใจ ซึ่งรัฐบาลทราบดีถึงสิทธิเสรีภาพที่ไม่สามารถปิดกั้นได้
“แต่การใช้สิทธิเสรีภาพจะต้องไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ไม่กระทบต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน และต้องไม่มีนัยแอบแฝง ไม่ละเมิดสถาบันโดยเด็ดขาด หากมีการชุมนุมลักษณะนี้ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมายในทุกกรณี ยืนยันว่ารัฐบาลมีแนวทางดูแลการชุมนุมให้เกิดผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด รวมถึงให้เจ้าหน้าที่อดทน อดกลั้นและเน้นชี้แจงด้วยเหตุและผล” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าว
พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า ส่วนข้อเรียกร้องที่กลุ่มผู้ชุมนุมเสนอ 3 ข้อ ยืนยันว่าฝ่ายรัฐบาลพร้อมรับฟังข้อเสนอ ซึ่งเรื่องที่เรียกร้องให้ยุบสภา เป็นเรื่องทางการเมืองที่นายกรัฐมนตรีเป็นผู้พิจารณา ส่วนเรื่องการคุกคามประชาชน รัฐบาลกำชับเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ให้ข่มขู่คุกคามใด ๆ ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญรัฐบาลตั้งคณะกรรมาธิการการศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว และพร้อมรับฟังความคิดเห็นจากส่วนต่าง ๆ
นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา ตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี ถึงปัญหารายการทางสถานีโทรทัศน์ที่นำเสนอเนื้อหาหลอกลวง สร้างความงมงาย หลังเกิดกรณีรายการช่องส่องผี โดยมองว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลต้องดูแล คุ้มครองผู้บริโภค เพราะรายการในลักษณะลี้ลับเกี่ยวกับผี ความเชื่อ แม้จะเป็นความเชื่อส่วนบุคคล แต่รัฐธรรมนูญกำหนดชัดเจนว่าจะต้องไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อหน้าที่ปวงชนชาวไทย ไม่เป็นอันตรายต่อรัฐและกระทบต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
“ไม่ได้หมายความว่าจะเชื่ออะไรแล้วเอามาเผยแพร่ ตีแผ่ให้ประชาชนหลงงมงายได้ ซึ่งรายการลักษณะนี้มักจะมีคนทำตัวเป็นผู้วิเศษ ติดต่อวิญญาณ ระลึกชาติได้ ซึ่งปรากฏอยู่ในสื่อทั้งทีวีและสื่อโซเชียลต่าง ๆ มีการแสวงหาผลประโยชน์ เช่นการขายหนังสือ ขายวัตถุมงคล อย่างรายการช่องส่องผีที่สร้างเหรียญ กอร์กอน โดยหลังเกิดกรณีย่าโมกับย่าบุญเหลือ มีการขายได้เงินหลายสิบล้าน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเลยมานาน โดยไม่ควบคุมจัดการกับการสร้างความเชื่อผิด ๆ สร้างความขัดแย้ง แตกแยกที่ผิดหลักศาสนาแต่ละศาสนา จึงขอถามว่ารัฐบาลมีมาตรการจัดการเรื่องนี้ไม่ให้เกิดขึ้นในสังคมอีกอย่างไร” นายวันชัย กล่าว
นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบกระทู้ถาม ยืนยันว่ารายการช่องส่องผี เป็นประเด็นเพราะมีการบิดเบือนประวัติศาสตร์ ทั้งเรื่องพระเจ้าตากสิน เรื่องสุนทรภู่ และเรื่องย่าบุญเหลือ หลังจากเกิดเหตุการณ์ รัฐบาลไม่ได้ปัดความรับผิดชอบ แม้ในทางกฎหมายสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จะมีอำนาจเพียงดูแลเรื่องงบประมาณของวัดวาอาราม ยังไม่มีอำนาจตัดสินใจให้วัดใดอนุญาตถ่ายทำรายการ
“แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น ได้ประสานไปทางผู้ว่าราชการจังหวัดให้ดำเนินคดีถึงที่สุด รวมถึงประสานกระทรวงวัฒนธรรมที่ดูแลด้านประวัติศาสตร์ให้ดำเนินคดีเรื่องการบิดเบือนประวัติศาสตร์ และให้มหาเถรสมาคมมีมติให้วัดทุกวัด ตรวจสอบการขออนุญาตการขอถ่ายทำรายการต่างๆให้ดูสคริปต์ทั้งหมดก่อนด้วย เชื่อว่าหลังวจากนี้การบิดเบือนจะไม่เกิดขึ้นอีก รวมทั้งได้ประสานไปยังกสทช.ดำเนินการต่อสถานีโทรทัศน์ที่นำเสนอ และให้ สคบ. ไปดูว่ารายการลักษณะนี้ เข้าข่ายโฆษณาชวนเชื่อ โฆษณาเกินจริงด้วยหรือไม่” นายเทวัญ กล่าว.-สำนักข่าวไทย