“วุฒิสภา” ถกญัตติด่วน ผลกระทบ “แผ่นดินไหว”

รัฐสภา 31 มี.ค.- “วุฒิสภา” ถกญัตติด่วน ผลกระทบ “แผ่นดินไหว” ต่อประเทศไทย สว.ลุกฉายภาพสับสนอลหม่าน บอกน่าสมเพชเวทนาประชาชน ตื่นตระหนก-ทำอะไรไม่ถูก ชี้ปัญหาคือ “การสื่อสาร” จี้ คนทั้งประเทศอยากเห็นการบัญชาการวิกฤติของผู้บริหารประเทศ


การประชุมวุฒิสภา ที่มี พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานในการประชุม พล.ต.ต. รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา ขอให้ที่ประชุมพิจารณากรณีเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ในประเทศเมียนมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อประเทศไทย เมื่อวันศุกร์ที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา

โดย พล.ต.ต. รมย์สิทธิ์ แถลงหลักการว่า แผ่นดินไหวดังกล่าว เป็นแผ่นดินไหวในระดับสูงมาก แม้ศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหวในครั้งนี้จะเกิดในประเทศเมียนมาก็ตาม แต่ก็เกิดผลกระทบอย่างร้ายแรงไม่คาดคิดดว่าสถานการณ์อันเลวร้ายนี้ จะเกิดขึ้นในประเทศไทยของเรา ภัยพิบัตินี้ไม่ได้เกิดการสั่นไหวแค่ไหนพื้นดินเท่านั้น แต่เกิดการสั่นไหว หวั่นวิตกของพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แผ่นดินไหวในครั้งนี้ เราได้เห็นภาพวิปโยคในหลายมิติ


“เราเห็นตึกสูง 30 ชั้นถล่มลงมาต่อหน้าต่อตา มีผู้เสียชีวิต ผู้สูญหาย และล่าสุดวันนี้เกิดตึกเอียงทรุดเป็นหลุมต่อเนื่อง จนต้องมีการอพยพผู้คน สถานการณ์เหล่านี้ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าหวั่นวิตกสำหรับพี่น้องคนไทยอย่างยิ่ง” พล.ต.ต. รมย์สิทธิ์ กล่าว

พล.ต.ต. รมย์สิทธิ์ ยังขอฉายภาพสำคัญ 3 ภาพ ระบุว่า ภาพแรกเป็นภาพของการสับสนอลหม่าน ตื่นตระหนก ทำอะไรไม่ถูกของผู้ประสบภัย ซึ่งเป็นภาพที่น่าสมเพชเวชทนาอย่างยิ่ง ต้องยอมรับว่าการให้ความรู้เรื่องกระบวนการรับมือกับภัยพิบัติ แผ่นดินไหว ถ้าจะพูดกันแบบตรงไปตรงมา แทบจะไม่เคยเกิดขึ้นเลยในประเทศไทย หลายท่านคงเหมือนกับตนที่ยังไม่เคยได้รับการถ่ายทอดการรับมือกับแผ่นดินไหว จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เกิดภาพที่น่าสมเพชเวชทนากับพี่น้องคนไทยเป็นอย่างยิ่ง

พล.ต.ต. รมย์สิทธิ์ กล่าวต่อว่า อีกภาพหนึ่งคือภาพของการเร่งรีบ ลุกลน ของผู้ที่เป็นเจ้าของยวดยานที่จะรีบนำยานพาหนะของตัวเองออกจากอาคารจอดรถทั้งหลาย จนทำให้เกิดปัญหาความแออัดของถนนทุกเส้นทางในกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นซอยเล็กซอยน้อย จนกระทั่งทำให้เกิดเดตล็อกทั้งกรุงเทพ ถนนเป็นอัมพาตต้องใช้เวลาคลี่คลายไม่น้อย ที่สำคัญคือทำให้หน่วยกู้ชีพไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมและความล้มเหลวของการบริหารสถานการณ์ในภาวะวิกฤตได้อย่างชัดเจน
พล.ต.ต. รมย์สิทธิ์ กล่าวว่า ภาพอีกอย่างหนึ่งที่ตนอยากจะกล่าวคือการสื่อสาร เราจะพบว่าการสื่อสาร การประชาสัมพันธ์ เป็นอะไรที่ล่าช้า ไม่เท่าทันสถานการณ์ มีพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้รับ SMS ไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารจากภาครัฐ ซึ่งเป็นข้อมูลเชิงประจักษ์ ผ่านมา 20 ปีแล้วระบบการแจ้งเตือนของประเทศไทยยังไม่เปลี่ยนแปลง


“สิ่งที่พี่น้องคนไทยทั้งชาติอยากเห็น คือการบัญชาการบริหารเหตุการณ์วิกฤตของผู้บริหารประเทศ เมื่อวันที่ 28 มี.ค. เราไม่เห็นภาพนั้นเลย ด้วยเหตุผลในลักษณะที่ผมกราบเรียนดังกล่าวนี้เอง จึงทำให้เกิดปัญหา ภาพที่ไม่อยากจะเห็นจึงได้เห็น จึงนำมาสู่วันนี้ ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่ประชาชนและคนทั่วไปว่า ณ เวลานี้ บ้านเมืองของเรายังจะมีความมั่นคงปลอดภัยอยู่หรือไม่” พล.ต.ต. รมย์สิทธิ์ กล่าว

นาวาตรีวุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ ลุกอภิปรายว่า ช่วงเกิดเหตุ ตนได้ออกจากรัฐสภา เผอิญไปผ่านที่ไหนก็ไม่ผ่าน ดันไปผ่านถนนกำแพงเพชรในเวลานั้นเวลานั้นพอดีเลย ในเวลานั้นมีแผ่นดินไหว และเห็นตึกถล่มลงมากับตาสองข้าง เราก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มองไปทางขวาก็เห็นน้ำกระฉอกจากตึกเต็มไปหมดเลย ขับรถไปอีกสักพัก คนก็วิ่งลงจากตึกจำนวนมาก เหมือนกับในภาพยนตร์ เรื่องโลกจะแตกอะไรทำนองนั้น

นาวาตรีวุฒิพงศ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าประชาชนมากมายก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับระบบของประเทศไทย ทำไมการเตือนภัยพิบัติหลังจากเกิดเหตุแล้ว ตั้งแต่สึนามิ ผ่านมาเกือบ 20 ปีแล้ว จนถึงปัจจุบันนี้ เราไม่มีอะไรดีขึ้นเลยหรือ จึงย้อนกลับไปศึกษา เพื่อนำมาอภิปรายในวันนี้ การแจ้งเตือนของภาครัฐแทบจะไม่มาเลย SMS ก็ไม่มา บอกว่าจะส่ง ส่งเมื่อไหร่ กี่โมงกว่าจะได้ บางคนเขาก็ได้ ตอนประมาณเกือบ 1-2 ทุ่ม ซึ่งคือหลังจากเกิดเหตุแล้วประมาณ 5- 6 ชั่วโมง แบบนี้ถือว่าเป็นการแก้ปัญหาเร่งด่วนหรือไม่

“คนตกอกตกใจส่งอะไรกันเรื่อยๆเปื่อย มิจฉาชีพยังส่งข้อความได้เร็วกว่าภาครัฐอีก แถมส่งลิงค์มาด้วย เสร็จแล้วคนกดพลาด เข้าไปก็นึกว่าเตือนภัยจากภาครัฐ ที่ไหนได้ กลายเป็นมิจฉาชีพอีกแล้ว” นาวาตรีวุฒิพงศ์ กล่าว

นาวาตรีวุฒิพงศ์ กล่าวว่า หน่วยงานของรัฐยิ่งไปกันใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) , กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รวมถึงกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และกระทรวงมหาดไทย ไม่มีหน่วยงานที่ชัดเจนประชาชนก็ไม่รับการฝึกซ้อมอย่างดี

“ถึงเวลาแม้กระทั่งอาจงอาจารย์ชั้นนำ ที่เป็นไอคอนของประเทศนี้ ยังวิ่งออกมาก่อนเลยจากศูนย์สิริกิติ์ ก็เพราะมันไม่มีการซ้อม ตั้งแต่เด็กจนโต ผมก็ไม่เคยเห็นการสอน ในสภาแห่งนี้ก็เพิ่งเริ่มตื่นเต้นกัน” นาวาตรีวุฒิพงศ์ กล่าว

นาวาตรีวุฒิพงศ์ กล่าวว่า หน่วยงานของภาครัฐใช้งบประมาณไปมาก แต่ไม่เกิดผล รัฐบาลได้กำหนดให้ดำเนินการเกี่ยวกับ Cell Broadcast มานานแล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำ ยังจัดซื้อจัดจ้างไม่แล้วเสร็จ พร้อมยกคำพูดนายกรัฐมนตรีที่กล่าวในที่ประชุม ที่บอกว่า ท่านต้องตอบคำถามตรงนี้ให้ได้ เพราะดิฉันต้องตอบคำถามประชาชน ดิฉันสั่งไปตั้งแต่ก่อน 14.00 น. แต่ระบบไม่ออก ก่อนจะย้ำว่า ถึงเวลาปฏิรูปแล้ว

ขณะที่ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส อภิปรายอย่างดุเดือดว่า แผ่นดินไหวที่ผ่านมาเปลือยเปล่าระบบราชการไทยและรัฐบาลอย่างชัดเจนที่สุด จนทำให้คนไทยตาสว่างกันเลยทีเดียว

“นี่เป็น Once in a lifetime แต่เราคงไม่ใช้คำว่าเป็นบุญที่ได้เจอแน่นอน แม้จะเป็นครั้งแรกที่ประสบ แต่รัฐบาลก็ไม่อาจแสดงความรักไร้เดียงสา ปฏิเสธความรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ถ้าจะว่าไปแล้วครอบครัวของท่านนายกฯ เคยเผชิญวิกฤตแล้ว รุ่นพ่อเจอสึนามิ รุ่นอาเจอน้ำท่วมใหญ่ มาถึงท่านนายกฯ น่าจะเอาประสบการณ์การบริหารภาวะวิกฤติมาใช้ได้บ้างไม่มากก็น้อย แต่นี่หาได้มีความเป็นมืออาชีพไม่” น.ส.นันทนา กล่าว

น.ส.นันทนา กล่าวว่า แผ่นดินไหวสะท้อนการจัดการของรัฐบาลมากมาย ประการที่หนึ่งคือขาดการสื่อสารในภาวะวิกฤติอย่างมีประสิทธิภาพ

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ประชาชนตะลึงตึงตึง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้สูงอายุโทษตัวเองว่าโรคความดัน หัวใจ บ้านหมุน ทำอะไรไม่ถูก เพราะไม่มีใครมาบอกว่าเกิดอะไรขึ้น ต้องรอจนโซเชียลมาช่วยกันแชร์ภาพ ถึงได้รู้ว่านี่คือแผ่นดินไหว ก่อนหน้านี้หาทางออกชีวิตไม่เจอ” น.ส.นันทนา กล่าว

น.ส.นันทนา กล่าวต่อว่า ประการที่สองคือปัญหาการบริหารจัดการ ขาดเจ้าภาพสั่งการในที่เกิดเหตุ หน่วยงานภาครัฐไปถึงช้ากว่าองค์กรพัฒนาเอกชน ที่สำคัญภาครัฐไม่มีใครบัญชาการสถานการณ์ ปล่อยตามธรรมชาติเรียกว่าตามมีตามเกิด ประการที่สาม การช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ล่าช้า จนไม่รู้จะร้องขอความช่วยเหลือจากใคร มีแต่องค์กรพัฒนาเอกชนที่ประชาชนต้องช่วยกันเอง

ประการที่สี่ ได้แก่ ขาดการปฎิบัติการแบบมืออาชีพ ในสถานการณ์ที่ตึกถล่ม ไม่มีการปิดล้อมพื้นที่ทันทีที่เกิดเหตุ ทุกคนกรูเข้าไป ไม่มีการรักษาหลักฐาน คนที่บาดเจ็บอยู่ใต้ซากปรักหักพัง เขาต้องการการกู้ภัยแบบมืออาชีพ แต่กลายเป็นว่าทุกอาชีพเข้าไปอยู่ในพื้นที่ประสบภัย การช่วยเหลือจะมีประสิทธิภาพได้อย่างไร เรายังไม่ทราบเลยว่ามีกี่คนที่เขาไปทำงานในที่เกิดเหตุ เราจะเยียวยาอย่างไรถือเป็นเรื่องเร่งด่วนมาก

น.ส.นันทนา ระบุว่า การสื่อสารในภาวะวิกฤตเป็นเรื่องที่รัฐบาลทำช้าและทำน้อยเกินไป เพราะทันทีที่เกิดแผ่นดินไหว รัฐต้องแจ้งต่อประชาชนให้ทราบทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น มันจะต้องเกิดภัยพิบัติอีกเมื่อไหร่อี รัฐบาลถึงจะเตือนภัยประชาชน รัฐบาลไม่เคยสื่อสารให้ประชาชนอุ่นใจ มีแต่คอลเซ็นเตอร์เท่านั้นที่อยู่กับเรา แม้ว่าเราจะไม่ต้องการมันเลย ซึ่งเรื่องนี้ ตนทราบว่ารัฐบาลนี้ได้ตั้งงบประมาณพันล้านบาท เพื่อสร้างระบบเตือนภัย

“ท่านนายกฯ พูดว่าดิฉันสั่งการไปตั้งแต่ 14.00 น. แต่ระบบไม่ออก ปัญหาใหญ่ขนาดนี้ หน่วยงานภาครัฐเกี่ยงกันทำงานอีก มีกระแสข่าวว่าบริษัทอินเทอร์เน็ตทั้ง 2 ค่าย พร้อมส่ง SMS แต่ กสทช. และ ปภ.ไม่พร้อม ไม่รู้ว่าจะส่งข้อความอะไร มัวแต่ลังเลไป 23 ชั่วโมงผ่านไป ดิฉันได้รับ SMS ถึงวิธีการปฏิบัติตัวหากเกิดอาฟเตอร์ช็อก ดิฉันไม่แน่ใจว่า SMS นี้ ท่านส่งมาเตือนตัวเองหรือไม่ ให้รวบรวมสติแล้วรีบส่งข้อความอย่างเร็วไปให้ประชาชนรับรู้” น.ส.นันทนา กล่าว

จากนั้น พล.ต.ท.บุญจันทร์ นวลสาย ลุกหารือว่า เหตุการณ์มันเกิดขึ้นแล้ว เรามาร่วมกันหาทางออกดีกว่าหรือไม่ ในวุฒิสภามีผู้มีความรู้ความสามารถ วิศวกรหลายท่าน แต่พลเอกเกรียงไกร กล่าวตัดบทว่า ที่อภิปรายอยู่ขณะนี้ มีคนเก่งๆ กำลังหาทางออกให้อยู่ เดี๋ยวจะให้รัฐบาลทำอะไรก็คงได้คุยกัน รวมถึงที่ทุกคนพูดถึงเมื่อเช้านี้ด้วย หลายคนปราดเปรื่องมาก จะเสนอให้รัฐบาลว่ากันไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการอภิปรายส่วนใหญ่ สว.พุ่งเป้าไปที่การแจ้งเตือนหลังเกิดเหตุ โดยยกประสบการณ์ตนเอง และหลายคนยกตัวอย่างการแจ้งเตือนของต่างประเทศที่รวดเร็ว เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

ล่า “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงินกว่า 3 ล้าน

กทม. 1 ก.ค. – ตำรวจยังคงไล่ล่าแก๊งปล้นเงินกลางห้างดังย่านลาดพร้าว ได้เงินไปกว่า 3.4 ล้านบาท ล่าสุดศาลอนุมัติหมายจับแล้ว พบเป็นคนดังโซเชียลสายคุก ฉายา “เสือปุ่น” มีประวัติคดีโชกโชน .-สำนักข่าวไทย

“เจนี่” ถือฤกษ์ดี ปลงผมบวชสามเณรี ญาติมิตรร่วมอนุโมทนา

สระบุรี 1 ก.ค. – “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์” วัย 44 ปี ถือฤกษ์งามยามดี เช้าวันนี้ (1 ก.ค.68) ปลงผมบวชสามเณรี ในโครงการบรรพชาสามเณรี รุ่นที่ 3 บริเวณปะรำพิธี ณ ศรีวรญาลัย จ.สระบุรี โดยมีครอบครัว ญาติสนิท ผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือ และเพื่อนพ้องทั้งในและนอกวงการ ร่วมอนุโมทนา. – สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยศาล รธน. ยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติ

ทำเนียบ 1 ก.ค.-นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมชี้แจงเต็มที่ ยืนยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติและรักษาอธิปไตย ไม่มีเจตนาอยากได้อะไรเป็นของตัวเอง พร้อมขอโทษ หากวิธีการไม่ถูกใจใครหลายคน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องไว้วินิจฉัย กรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุนเซ็น และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ด้วยมติ 7:2 ว่า ขอน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลต่อจากนี้ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งระยะเวลานั้นไม่แน่ใจ แต่มีเวลาประมาณ 15 วันที่จะชี้แจง ตนจะทำให้เต็มที่ในการที่จะบอกความตั้งใจที่แท้จริงว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมาว่า ความตั้งใจและเจตนาจริงๆ เกิน 100% ว่าตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อรักษาไว้เพื่ออธิปไตยของเรา เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตของกองทัพและทหารทุกคน เพื่อสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา ตนมั่นใจในสิ่งนี้มากๆ แต่วิธีการที่ตนเองทำ อาจจะมีทั้งถูกใจหรือไม่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่ก็จะพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ ว่าเป็นความตั้งใจ เป็นความพยายามเกิน 100% ที่จะทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ เจตนาไม่มีอยากได้อะไรของตัวเองเลย และคิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความวุ่นวายและ ทำอย่างไรที่จะไม่ต้องสู้รบกัน ทหารไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ และตนก็คงรับไม่ได้หากพูดอะไรกับทางผู้นำและทำให้เกิดผลเสีย เกิดการทะเลาะหรือโกรธเคือง อันนั้นเป็นความตั้งใจจริงๆ ถ้าลองฟังดูจริงๆ ก็จะรู้ว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร เพราะฉะนั้นนี่คือ […]