“สว.” เชียร์ “สิริพรรณ-ชาตรี” เหมาะสมนั่งตุลาการศาลรธน.

รัฐสภา 18 มี.ค.- “สว.” เชียร์ “สิริพรรณ-ชาตรี” เหมาะสมนั่งตุลาการศาลรธน. ชี้หาก นำม.112 มาเป็นประเด็น ต้องพูดตั้งแต่ “นครินทร์” แล้ว บอกน่าเสียดายถ้าไม่ผ่านเพราะไม่ไปสันถวไมตรีกับผู้ยิ่งใหญ่ ขณะที่ “อังคณา” อยากเห็นก่อนประชุมลับสับตุลาการฯ มีสัดส่วนทางเพศ-คนทำงานต้องไม่กลัวถูกฟ้อง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมวุฒิสภา ที่มี พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม เข้าสู่วาระการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับเลือกเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คือ นางสิริพรรณ นกสวน สวัสดี อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและนายชาตรี อรรจนานันท์ อดีตอธิบดีกรมการกงสุล และอดีตเอกอัครราชทูตหลายประเทศ แทนนายนครินทร์ เมฆไตรรัฐ ประธานศาลตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และนายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โดยช่วงที่เปิดสมาชิกอภิปรายเปิดเผยนั้น สว.อภิปรายสนับสนุนบุคคลทั้งสอง อาทิ นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สว.อภิปรายว่า คนที่นางสิริพรรณ จะเข้าไปแทนคือนายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ก็ให้คามเห็น กลับมาตรา 112 ไว้โดยมีการเผยแพร่ในสื่อช่วงปี 2554 เป็นช่วงเวลาไล่เลี่ยกันที่นางสิริพรรณ มีมุมมองต่อมาตรานี้ รวมถึงนายอุดม รัฐอมฤต ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เคยเป็นที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ให้กับนักศึกษาเกี่ยวกับมาตรานี้ หากหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาพิจารณา เพราะหากมีปัญหาทั้งสองท่านก็คงจะเป็นประเด็นไปก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นจึงคิดว่าเรื่องนี้ไม่ควรนำมา

ด้านนาวาตรีวุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ สว. อภิปรายว่า ได้อ่านประวัติของทั้งสองท่าน ก็จะทราบว่าได้ผ่านการคัดเลือกมาด้วยความรู้ความสามารถและประสบการณ์อย่างแท้จริงแทบจะไม่มีข้อสงสัยใดๆ และทุกคนที่ได้อ่านประวัติล้วนแล้วแต่ชื่นชมยินดี โดยเฉพาะนางสิริพรรณ จึงอยากให้สมาชิกได้พิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อจะลงคะแนนให้ท่านได้เป็นตุลาการศาลและเราจะได้มีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่เป็นสุภาพสตรีที่มีความรู้ความสามารถไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าใครในประเทศไทย ส่วนนายชาตรี ก็เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถในเรื่องรัฐศาสตร์ทางการทูตอย่างดี ถ้าเรามีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ล่วงรู้ไปถึงกลไกลของศาลโลก เรายอมที่จะได้รับอานิสงส์จากท่านเป็นอย่างยิ่งดังนั้นไม่ว่าใครจะพิจารณาแล้วเห็นเป็นอย่างไรก็เป็นเอกสิทธิ์ของทุกคนแต่ส่วนตัวขอสนับสนุนทั้งสองท่านให้เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ


ขณะที่นางอังคนา นีละไพจิตร สว.อภิปรายว่า ผู้ถูกเสนอชื่อบางคนเป็นคนทำงานเป็นที่รู้จัก มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ คนเหล่านี้มักจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ หลายคนถูกฟ้องร้อง ถูกดำเนินคดีซึ่งเป็นธรรมดาสำหรับคนที่ทำงานเพื่อสาธารณะและเพื่อประโยชน์ของสังคม ในฐานะที่ตนเคยเป็นอดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) ตนก็เคยถูกเลือก และมีเพื่อนอีกหลายคนที่ได้รับการเสนอชื่อแต่ไม่ถูกเลือก จึงเห็นว่าสิ่งสำคัญที่สุดวุฒิสภาจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีเหตุผลที่สามารถอธิบายต่อสังคมได้ แต่ในการพิจารณาองค์กรอิสระทุกครั้ง ผู้ได้รับการเสนอชื่อจะไม่มีโอกาสได้เข้ามาชี้แจงด้วยตัวเองวุฒิสมาชิกเองก็มีเฉพาะบางท่านที่มีโอกาสได้รับเลือกเข้าเป็นกรรมการตตรวจสอบประวัติ และตนก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยมีโอกาสได้รับเลือกให้เป็นกรรมการฯและไม่เคยมีโอกาสที่จะซักถามผู้ที่ได้รับการเสนอชื่ออย่างไรก็ตามตนคิดว่าคนที่ทำงานเพื่อสังคมเราจะรู้ว่าใครที่เป็นคนทำงานและปกป้องผลประโยชน์ประชาชนอย่างแท้จริง ตนคิดว่าการเลือกองค์กรอิสระทุกครั้งมีความสำคัญ หลายครั้งคนที่ตนเห็นว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมและสมควรที่จะได้รับเลือกเข้ามากลับไม่ได้รับเลือกและไม่มีเหตุผลที่จะอธิบายว่าเพราะอะไร

“ดิฉันจึงอยากเห็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่มีสัดส่วนทางเพศ และอยากเห็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการต่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนเพราะเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องสำคัญและต่อไปในการพิจารณาคัดเลือกองค์กรอิสระ ดิฉันอยากเห็นคนที่ทำงานโดยที่ไม่กลัว ถูกวิพากษ์วิจารณ์ไม่กลัวการถูกฟ้องร้องดำเนินคดีแต่เอาตัวเองเป็นหลักในการที่จะปกป้องคนอื่น จึงอยากให้สมาชิกเลือกด้วยความรอบครอบและเป็นอิสระ” นางอังคณา กล่าว

ส่วนน.ส.รัชนีกร ทองทิพย์ สว. อภิปรายว่า เท่าที่ตนรู้จักนางสิริพรรณมา เป็นคนดีอย่างยิ่งเป็นผู้ที่มีความเป็นกลางทางวิชาการมีความเป็นกลางในการพิจารณาสิ่งต่างๆโดยใช้หลักวิชาการเข้ามาประกอบ ปัจจุบันนางสิริพรรณ เป็นศาสตราจารย์ ดังนั้นการเป็นศาสตราจารย์ในสาขาวิชารัฐศาสตร์ไม่ใช่เรื่องง่าย คนที่เป็นศาสตราจารย์ได้ต้องมีผลงานทางวิชาการเชิงประจักษ์ ไม่ใช่เชิงประจักษ์ธรรมดาแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างมากในเรื่องของรัฐธรรมนูญและสาขาต่างๆของวิชารัฐศาสตร์ การเป็นอาจารย์ที่จุฬาลงก่อนมหาวิทยาลัยก็ไม่ใช่เรื่องง่าย นางสิริพรรณดำรงในฐานะแม่พิมพ์อย่างดียิ่ง เป็นแบบอย่างของบุคคลที่ได้เห็น ประพฤติตนอยู่ในกรอบแห่งจริยธรรมครบถ้วนสมบูรณ์ตนไม่เคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับนางสิริพรรณในทางที่ไม่ดีเลย วันนี้นางสิริพรรณ ได้รับเลือกเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คือทางออกของประเทศไทย


“ทำงานเพื่อสาธารณะมักมีประเด็นทุกครั้งที่ทำอะไรมักจะมีสองด้านเสมอคนไม่พูดคือไม่ผิดใช่หรือไม่คนทำคนไม่ทำอะไรคือไม่ผิดใช่หรือไม่ประเทศไทยเราต้องการให้คนไม่ทำอะไรเข้ามาเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ สิ่งที่อาจารย์สิริพรรณทำ เคยถูกตั้งคำถามแต่อาจารย์ก็ชี้แจงได้ว่าเป็นเหตุผลทางวิชาการ คนไม่ทำอะไร ไม่เคยด่างพร้อย ไม่เคยถูกตั้งคำถาม ไม่เคยถูกร้องเรียนเลย ควรมาเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ เราอยากได้คนที่เพิกเฉยต่อสาธารณะเพิกเฉยต่อประเทศชาติมาทำงานในตำแหน่งที่สูงของประเทศ ขององค์กรอิสระหรือ เชื่อว่าเมื่ออาจารย์สิริพรรณ เข้ามาเป็นตุลาการฯ จะทำงานด้วยความเป็นกลางไม่เห็นแก่พวกพ้อง” น.ส.รัชนีกร กล่าว

นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. อภิปรายว่าทั้ง 2 ท่านที่ได้รับการเสนอชื่อในการดำรงตำแหน่งได้ผ่านกระบวนการอันชอบธรรม โดยคณะกรรมการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมีคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง บางท่านอาจจะได้เสียงเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ 8:0 บางพ่านอาจจะผ่านการพิจารณาถึง3 รอบ ซึ่งตนไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวทั้ง 2 คน เพราะอยู่คนละแวดวงกัน แต่ตนให้เกียรติคณะกรรมการสรรหาทั้ง 8คน มีความรู้ความสามารถเป็นที่ยอมรับ เมื่อคัดเลือกมาแล้ว ส่วนตัวก็จะเลือกทั้ง 2 คน แม้อาจจะมีบางคนต้องต่อสู้คดีบ้าง ปัจจัยสิ่งสำคัญคือคำพิพากษา เมื่อพิสูจน์แล้วว่าบริสุทธิ์ ถือว่าผ่าน คนเราจะไม่มีคดีเลยก็คือเราต้องไม่ออกจากบ้าน ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับใคร เพราะบางคนอาจจะถูกหมั่นไส้เฉยๆ ก็ได้ หนือบางเรื่องอาจจะไปพัวพัน โดยอาจจะไปร่วมเฉยๆ ก็ได้ เมื่อพิสูจน์แล้วว่าบริสุทธก็ถือว่าผ่าน ในส่วนคุณธรรมจริยธรรมตนคิดว่า เราควรดูว่าเขาทำงานได้หรือไม่ มีปัญหาไม่ดี ไม่งาม หรือไม่ ตนไม่อยากให้เป็นบรรทัดฐานว่าได้รู้จักกับใครหรือไม่ เขาเคยไปท่องเที่ยวเมืองรองหรือเปล่า ซึ่งเมืองรอง มีหลายเมือง เคยไปหรือไม่ หรือไม่ไปก็ยังไม่ผ่าน ต้องไปสันถวไมตรีก่อนถึงผ่าน หากเกณฑ์เป็นเช่นนี้ก็น่าเศร้าใจ หลายคนดำรงตำแหน่จนถึงทุกวันนี้เพราะความมั่นใจในสิ่งที่ตน มั่นใจในคุณธรรมที่มี จึงไม่ไปสันถวไมตรีกับผู้ยิ่งใหญ่ที่ไหน และถ้าเหตุผลนี้จะเป็นเหตุผลที่ทำให้ตกไป ตนคิดว่าน่าเสียดาย

จากนั้นเป็นการประชุมลับ เพื่อให้สมาชิกอภิปรายแสดงความคิดเห็นในส่วนที่ไม่สามารถเปิดเผยได้.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

เปิดภาพสายลับเขมรปลอมเป็นพระ ร่วมป่วนชายแดนสระแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – เปิดภาพสายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระสงฆ์ ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ร่วมก่อความวุ่นวายชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จนท.ฝ่ายไทยเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยตรวจพบความเคลื่อนไหวสำคัญ โดยมีกลุ่มทหารกัมพูชา พร้อมด้วยกำนันลี บุคคลสำคัญในพื้นที่ฝั่งกัมพูชา ได้เกณฑ์ชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านใกล้ชายแดนเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว คาดหมายว่า การรวมกลุ่มครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมเข้ารื้อถอนรั้วลวดหนาม ที่ฝ่ายไทยเพิ่งติดตั้งเสริมความมั่นคงตลอดแนวชายแดน ขณะเดียวกันฝ่ายความมั่นคงไทยได้ส่งโดรนบินตรวจการณ์เหนือพื้นที่ พบว่าฝั่งกัมพูชามีการเคลื่อนไหวผิดปกติ ชาวบ้านเริ่มรวมตัวกันหนาแน่นมากขึ้น และมีสัญญาณว่ามีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ โดยไม่ใช่การรวมตัวตามธรรมชาติของชาวบ้านทั่วไป สายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระ ร่วมชุมนุมที่น่ากังวลไปกว่านั้นเจ้าหน้าที่ไทยสามารถยืนยันได้ว่ามีทหารสายลับของกัมพูชาปลอมตัวเป็นพระสงฆ์ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม โดยใช้ผ้าเหลืองบังหน้าเพื่อไม่ให้ถูกสงสัย ถือเป็นยุทธวิธีในการแทรกซึมและสอดแนมการทำงานของฝ่ายไทย ทั้งยังเสี่ยงต่อการสร้างสถานการณ์ บิดเบือนหากเกิดการเผชิญหน้า ด้านกองกำลังบูรพาและหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และชุดควบคุมฝูงชน ยังคงตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน เพื่อป้องกันการรุกล้ำพื้นที่ โดยพฤติกรรมของฝั่งกัมพูชาในระยะนี้สะท้อนให้เห็นถึงการจัดตั้งที่มี “ผู้ชี้นำเบื้องหลัง” คอยปลุกระดมและผลักดันชาวบ้านให้เข้ามาเคลื่อนไหว อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเข้ารื้อรั้วลวดหนาม หรือการปะทะกับเจ้าหน้าที่ไทย ขณะที่ฝ่ายไทยยังคงยืนยันการปฏิบัติในกรอบสากล ไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง ยกเว้นในกรณีที่ถูกบุกรุกหรือคุกคามความมั่นคงโดยตรง ด้านเพจ army military force ได้โพสภาพพร้อมข้อความวัยรุ่นเขมรโพสต์รูปพร้อมแคปชั่นท้าทาย “ไม่กลัวแก๊สนํ้าตาของพวกเสียม ถ้าแน่จริงก็ใช้มันเลย วันนี้ผมใส่หน้ากากครอบทั้งหน้า ไม่หวั่นกลัวสิ่งใดๆ ขอเพียงใช้แค่แก๊สนํ้าตาพอ กระสุนยางไม่ต้อง […]

รอง ผบ.ตร. ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที

สระแก้ว 18 ก.ย. – รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว ปรับแผนเตรียมรับมือ ป้องกันเหตุบานปลาย จ่อใช้กฎหมายดำเนินคดี ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที หลังจากเมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ช่วงบ่ายวันนี้ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมกับติดตามสถานการณ์ร่วมกับนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว และกรมป่าไม้ ณ ที่ว่าการอำเภอโคกสูง เพื่อปรับแผนเตรียมรับมือหากเกิดความไม่สงบขึ้น หลังจากการประชุม เวลา 16.30 น. พล.ต.อ.ไกรบุญ เปิดเผยว่า การเดินทางลงพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อหาวิธีไม่ให้เหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้ แนวทางการปฏิบัติคือจะใช้กฎหมายจับกุมดำเนินคดีตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก ขอให้มั่นใจว่าจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยจะใช้พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง เป็นกฎหมายนำในการดำเนินคดี เมื่อมีการรุกล้ำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยจะจับกุมทันที และยังคงเน้นย้ำให้กำลังพลอดทนอดกลั้น รวมถึงอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อระบุตัวตนและดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อความวุ่นวาย ด้านชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ตั้งแต่อยู่ที่นี่มาตลอดชีวิตหนนี้เป็นหนที่ 3 ที่เกิดความวุ่นวายขึ้น ก่อนหน้านี้มีชาวกัมพูชาอพยพมาอาศัยอยู่หมู่บ้านจำนวนมาก […]

เร่งล่าโจรบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน

สระบุรี 18 ก.ย. – ตำรวจเร่งล่าตัวคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน บังคับเจ้าของร้านหยิบทองใส่ถุงผ้า มูลค่ากว่า 2 แสนบาท ก่อนออกจากร้านซิ่งรถจักรยานยนต์หลบหนีไป วงจรปิดร้านทองภายในตลาดใหม่ท่าลาน ริมถนนสายท่าลาน-ห้วยบง ต.บ้านครัว อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี จับภาพคนร้ายเป็นชายสวมหมวกกันน็อกสีแดง สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีครีม กางเกงยีน รองเท้าเตะ ใช้อาวุธมีดปลายแหลมจี้ลูกค้าในร้านเป็นตัวประกัน เพื่อบังคับให้เจ้าของร้านซึ่งเป็นหญิงสูงอายุ ส่งเงินและทองให้ ตอนแรกเจ้าของร้านพยายามเจรจาต่อรอง แต่คนร้ายต้องการเงินและข่มขู่จะฆ่าตัวประกันหากไม่ส่งทองให้ สุดท้ายเจ้าของร้านต้องหยิบทองให้คนร้ายไป เป็นสร้อยข้อมือทองคำเส้นละ 1 สลึง จำนวน 11 เส้น เป็นเงิน 220,000 บาท จากนั้นคนร้ายปล่อยตัวประกัน ก่อนจะออกจากร้านขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็กซ์ สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไป ตำรวจ สภ.บ้านหมอ ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ สืบสวนหาข้อมูลและกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี เชื่อว่าไม่นานจะจับคนร้ายได้.-สำนักข่าวไทย

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพงเครียด ปฏิเสธโกงเงินวัด ยันไม่มีสัมพันธ์สีกา

กรุงเทพฯ 18 ก.ย. – พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง เปิดใจเป็นครั้งแรก หลังถูกเพจดังกล่าวหาทุจริตเงินวัดและมีสัมพันธ์สีกา 3 คน ความเคลื่อนไหวภายในวัดหัวลำโพง พระอารามหลวง กลางกรุงเทพฯ ยังคงถูกจับตามอง หลังเกิดกระแสข่าวลือในสังคมออนไลน์ กล่าวหาผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดว่าอาจมีส่วนพัวพันทั้งเรื่องการบริหารจัดการเงินวัดไม่โปร่งใส และถูกเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์สีกาถึง 3 ราย จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ล่าสุด พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาคที่หนึ่ง ได้โทรศัพท์สอบถามให้พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกับผู้สื่อข่าว ซึ่งสุดท้ายพระครูยอมเปิดใจผ่านโทรศัพท์เป็นครั้งแรก โดยระบุว่า หลังได้เห็นข่าวในโซเชียล ยอมรับว่ารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ในประเด็นแรก เรื่องการทุจริตเงินวัด พระครูฯ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเองมีเพียงรับเงินทำบุญจากญาติโยม จากนั้นก็จะส่งต่อให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนงานฌาปนกิจศพที่ตนดูแล เมื่อได้รับเงินจากเจ้าภาพก็จะทำการหักค่าแรงของคนงานออก ก่อนออกใบเสร็จยืนยัน ทุกขั้นตอนมีหลักฐานตรวจสอบได้ ส่วนข่าวลือเรื่องมีสัมพันธ์ชู้สาวกับสีกา 3 คน พระครูฯ ปฏิเสธหนักแน่นว่าไม่เป็นความจริงทั้งหมด โดย “นางกระแต” ที่ถูกอ้างว่าเป็นภรรยาคนแรกนั้น แท้จริงเป็นเพียงญาติโยมที่รู้จักกันมานานและจะมาทำบุญถวายสังฆทานเป็นครั้งคราวเท่านั้น ขณะที่ “นางแมว” เป็นอดีตคนงานวัด และ “นางดา” […]