ทำเนียบรัฐบาล 20 ก.ค.-โฆษก ศบค. เผยติดเชื้อเพิ่ม 1 รายมาจากสิงคโปร์ ส่วนกรณีซูดานปิดเคสได้ ระยองรอครบ 14 ปลายสัปดาห์นี้ แต่ล่าสุดไม่มีติดเชื้อ 22 ก.ค.นี้ประชุม ศบค.ชุดใหญ่พิจารณามาตรการผ่อนคลายแรงงานต่างชาติ
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 : ศบค.) แถลงสถานการณ์ประจำวัน โดยเน้นย้ำขอให้ประชาชนยังคงสวมหน้ากากผ้า หน้ากากอนามัย เพื่อยืนระยะยาวของการติดเชื้อในประเทศให้นานที่สุด
โฆษกศบค. กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ที่จ.ระยอง จ.ระยอง ตรวจไปแล้ว 6,501 ราย ไม่พบเชื้อ 6,287 ราย รอผล 214 ราย กทม. ตรวจ 364 ราย ไม่พบเชื้อ ขณะนี้รถพระราชทานตรวจเชื้อที่ระยองยังคงรับการตรวจอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งจะครบกำหนด 14 วันในปลายสัปดาห์นี้ ส่วนที่กรุงเทพฯ กรณีบุตรสาวอุปทูตซูดาน ไม่พบผู่ติดเชื้อเช่นกัน ซึ่งกล่าวได้ว่ากรณีซูดานปิดเคสได้แล้ว
“ตอนนี้ทั่วโลกติดเชื้อแล้ว 14 ล้านคน เป็นตัวเลขที่น่ากังวลใจ ถือเป็นวิกฤติของโรคและวิกฤติดของโลก ซึ่งไม่เกินความคาดหมาย เราต้องพูดแบบนี้ เพื่อให้ตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง เพื่อให้เราเตรียมตัว ระมัดระวังตัวรับมือกับโรคในทรัพยากรที่เรามีอยู่ จะได้สบายใจได้” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
โฆษกศบค. กล่าวว่า วันนี้มีผู้ติดเชื้อ 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 52 ปี อาชีพช่างไฟฟ้า กลับมาจากประเทศสิงคโปร์ วันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เข้ารับการกักกันตัวในสถานที่ที่รัฐจัดให้(State Quarantine) ตรวจ 2 ครั้ง วันที่ 17 กรกฎาคม พบเชื้อแต่ไม่มีอาการ ทั้งนี้ คนไทยที่กลับจากสิงคโปร์จำนวน 16,187 ติดเชื้อ 5 ราย ขอเน้นย้ำอย่าคิดหวังว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะเป็นศูนย์ แต่ไม่ว่าจะมีจำนวนเท่าใด จะรับมือให้ได้ ให้เห็นสรรพกำลังของคนไทยที่จะรับมือกับโรคติดต่อให้ได้ ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อสะสม 3,250 ราย กลับบ้านแล้ว 3,096 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาล 96 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม(สะสม 58 ราย)
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์โลกผู้ป่วยสะสม 14,641,819 ราย เสียชีวิต 608,902 ราย ผู้ติดเชื้อทั่วโลกในรอบ 24 ชั่วโมง 217,312 ราย สหรัฐอเมริกา บราซิล อินเดียและรัสเซีย แอฟริกาใต้ เป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงตามลำดับ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการแพร่ระบาดไปทั่วทุกภูมิภาคของโลก ขณะที่นายลอนดอน บรีด นายกเทศมนตรีเมืองซานฟรานซิสโก ประกาศระงับแผนเปิดเมืองไม่มีกำหนด โดยวางแผนปิดห้างสรรพสินค้าและสำนักงานที่ไม่จำเป็น เนื่องจากยังพบการแพร่ระบาดหนัก ส่วนประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 101
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงคนไทยในต่างประเทศที่ประสงค์จะเดินทางกลับไทย โดยย้ำถึงขั้นตอนการดำเนินการที่จะต้องลงทะเบียนแ ละมีเอกสารประกอบการเดินทางครบ จากนั้นจะรอคิวเพื่อเดินทาง ซึ่งทั้งหมดนี้ดำเนินการผ่านทางสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำแต่ละประเทศ อย่างไรก็ตาม บางประเทศยังปิดประเทศอยู่ บางประเทศสามารถบินตรงถึงไทยได้ แต่บางประเทศอาจต้องแวะเปลี่ยนเครื่องประเทศใกล้เคียง
“กระทรวงการต่างประเทศพยายามให้คนไทยเดินทางกลับให้ได้วันละ 600 คน แต่การบริหารจัดการต้องใช้ทรัพยากรมนุษย์จำนวนมาก และมีข้อจำกัดเรื่องสถานที่สำหรับกักกันตัวหรือ State Quarantine ที่ไม่เพียงพอ จึงกำลังเร่งหาโรงแรมเพิ่ม โดยอาจเพิ่มทางเลือกให้สำหรับผู้ที่พร้อมจ่ายเงินค่าสถานที่กักกันเอง เบื้องต้นขอให้ทุกคนติดต่อสถานทูตในประเทศนั้น ๆ แล้วแจ้งจุดประสงค์ เพื่อจัดสรรให้เหมาะสมต่อไป ส่วนเที่ยวบินที่จะนำคนไทยที่ตกค้างในต่างประเทศเดินทางไทยวันนี้(20 ก.ค.) มี 5 เที่ยวบิน คือ เดนมาร์ก 49 คน รัสเซีย 37 คน อินโดนีเซีย 196 คนสหรัฐอเมริกา 47 คน และสหราชอาณาจักร 301 คน” โฆษกศบค. กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า กรณีสถานประกอบการที่ต้องการแรงงานต่างด้าว พุธที่ 22 ก.ค.นี้ จะประชุมศบค.ชุดใหญ่ เพื่อพิจารณามาตรการผ่อนคลายเรื่องดังกล่าว ส่วนการใช้แพลตฟอร์มไทยชนะ หลังจากเกิดกรณีที่ต.ระยองและซูดาน ประชาชนให้ความร่วมมือใช้ไทยชนะมากขึ้น และขอความร่วมมือต่อไปโดยการเช็คอินเมื่อไปสถานที่ต่าง ๆ เพื่อให้ศบค.ใช้เป็นข้อมูลตรวจสอบได้
โฆษกศบค. กล่าวว่า รัฐมนตรีว่การกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลาง กลุ่มประเทศทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 ประเทศ (G20) ออกแถลงการณ์ระบุว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะหดตัวอย่างรุนแรงในปีนี้ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ซึ่งทางกลุ่มจะคงใช้เครื่องมือด้านนโยบายที่มีอยู่ทั้งหมด เพื่อปกป้องชีวิตงานและรายได้ของประชาชน สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และยกระดับความสามารถในการฟื้นตัวของระบบการเงิน แม้ภาพรวมแนวโน้มของเศรษฐกิจยังคงมีความไม่แน่นอนสูง โดยกลุ่ม G20 และ Paris Club ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่ร่ำรวย เช่น G7 ที่ให้ความช่วยเหลือด้านหนี้สินแก่ประเทศกำลังพัฒนาจะพักชำระหนี้ให้แก่กลุ่มประเทศที่ยากจนที่สุดตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 จนถึงสิ้นปีนี้ เพื่อสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนาในการสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นพ.ทวีศิลป์ ตอบคำถามเพิ่มเติมว่า กลุ่มชาวต่างชาติที่จะอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้มี 4 กลุ่มหลัก คือ ชาวต่างชาติที่มาจัดแสดงสินค้า กลุ่มถ่ายทำภาพยนต์ ซึ่งมีจำนวนคน ช่วงเวลาและสถานที่ถ่ายทำชัดเจน แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ เนื่องจากการขาดแคลนแรงงาน โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมอาหารและการก่อสร้าง และกลุ่ม Medical & wellness ที่เข้ามารักษาและศัลยกรรม โดยทุกกลุ่มจะต้องเข้ารับการกักตัว 14 วัน ส่วนกรณีการจัดโควต้าการเดินทางกลับของคนไทยในต่างประเทศ
สำหรับกรณีผู้พักอาศัยในคอนโดฯ ที่ไม่สบายใจ และเรียกร้องไม่ให้ใช้คอนโดเป็นสถานที่พักของเจ้าหน้าที่และนักการทูต โฆษกศบค. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สถานทูตต่างๆ ส่วนใหญ่อยู่ในไทยมานานและใช้คอนโดมีเนียมเป็นที่พัก มีเฉพาะบางคนเท่านั้นที่ต้องเดินทางไปปฏิบัติภารกิจและกลับเข้ามา แต่ในช่วงนี้กระทรวงการต่างประเทศได้ประสานสถานทูตต่าง ๆ แล้วหากเดินทางเข้ามาในไทย ต้องไปอยู่ใน Alternative State Quarantine ทั้งหมด และหากกักกันตัวครบ 14 วันแล้ว สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงกรณีที่ New York Times เผยแพร่บทความที่ตั้งคำถามว่าเพราะเหตุใดประเทศไทยจึงสามารถควบคุมโรคโควิด-19 ได้ดีในระดับหนึ่งว่า การที่ไทยสามารถควบคุมโรคได้ผลดี ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณประชาชนคนไทยที่ให้ความร่วมมือกัน จึงทำให้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดี.-สำนักข่าวไทย