ทำเนียบรัฐบาล 19 ส.ค.-ศบค.พบป่วยโควิด 2,110 ราย เสียชีวิต 27 ราย ย้ำมียาเพียงพอรักษา ดีเดย์ 1 ก.ย.นี้ ร้านยาขายยาต้านโควิดได้ตามใบสั่งแพทย์
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรื อศบค. แถลงผลการประชุมศบค.ชุดใหญ่ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ว่า พบผู้ป่วยรายใหม่ 2,110 ราย ไม่พบผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน และไม่พบผู้ป่วยจากเรือนจำและผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเข้าสถานที่กักกันรัฐ ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ปี 2563 รวม 4,630,310 ราย รักษาหายป่วยเพิ่ม 2,028 ราย รวมรักษาหายป่วยสะสม 2,409,797 ราย ผู้ป่วยรักษาอยู่ 20,048 ราย ผู้ป่วยที่มีอาการหนัก 853 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 436 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 27 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 31,971 ราย
“หากดูจำนวนผู้เสียชีวิตในช่วงที่ผ่านมา กลุ่ม 608 ที่ไม่ได้รับวัคซีนเสียชีวิต 117 คน ส่วนกลุ่ม 608 ที่ได้รับวัคซีนไม่ครบ เสียชีวิต 7 คน และได้รับวัคซีนสองเข็ม แต่ไม่ได้รับเข็มกระตุ้นเสียชีวิต 62 คน โดยเกณฑ์อายุเฉลี่ยของการเสียชีวิตจาก โควิด-19 อยู่ที่ 77.5 ปี จึงอยากฝากประชาชนทุกครอบครัวที่ดูแลผู้สูงอายุว่าการฉีดวัคซีนโดยเฉพาะเข็มกระตุ้นจะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากโควิดได้มาก” โฆษก ศบค. กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลก 598,839,607 ราย เสียชีวิต 6,466,367 ราย ขณะที่ตัวเลขการฉีดวัคซีนสะสมระหว่างวันที่ 28 ก.พ.2564-18 ส.ค.2565 มีผู้รับวัคซีนเข็ม 1 วันนี้ 3,765 ราย ฉีดสะสม 57,208,538 รายและเข็ม 2 วันนี้ 7,633 รายฉีดสะสม 53,627,546 ราย เข็ม 3 วันนี้ 24,366 ราย ฉีดสะสม 31,488,324 ราย ทั้งหมด 142,324,408 โดส
“นายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.ศบค. ขอบคุณทุกภาคส่วนตั้งแต่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) แพทย์ พยาบาล นายอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัดและภาคเอกชนที่ร่วมทำงานกันมา สร้างความพึงพอใจได้อย่างดี และเป็นที่ชื่นชมของนานาประเทศ จะเห็นว่าการติดเชื้อรายใหม่ ตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกลดลง ส่วนของประเทศไทยจะเห็นภาพว่าการติดเชื้อการรักษาตัวในโรงพยาบาลลดลงและตัวเลขผู้เสียชีวิตทรงตัว ขณะที่อัตราครองเตียง 14.8% โดยมีบางเตียงที่ป่วยหนักเพิ่มขึ้น 4.2% จาก 2,640 เตียง เพิ่มขึ้น 363 เตียง ป่วยวิกฤติเพิ่มขึ้น 2.4% ประมาณ 341 เตียงเป็น 1,104 เตียง ซึ่งขอย้ำว่าไม่เกินศักยภาพของการดูแลของกระทรวงสาธารณสุขที่ดูแลได้” โฆษกศบค. กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขอชื่นชม 33 จังหวัดที่สามารถควบคุมสถานการณ์โรค โควิด-19 ให้มีอัตราลดลง เช่น เชียงราย กำแพงเพชร พะเยาพิษณุโลก เพชรบูรณ์ ศรีสะเกษ เป็นต้น ขอให้ประชาชนทุกจังหวัดพยายามรักษาอัตราตัวเลขนี้ไว้ให้ได้ ส่วนกลุ่มที่ยังเป็นขาขึ้น 44 จังหวัด เช่น กรุงเทพมหานคร นนทบุรี กาฬสินธุ์ กาญจนบุรี ชัยภูมิ สมุทรปราการ นครปฐม นราธิวาส ตาก และประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น ตัวเลขเพิ่มขึ้นชัดเจน ส่วนภาวะลองโควิดในต่างประเทศ ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูเรื่องนี้ แต่ไม่ติดดีที่สุด
โฆษก ศบค. กล่าวถึงสถานการณ์ยาคงเหลือ ณ วันที่ 17 ส.ค.2565 ว่า ยาฟาวิพิราเวียร์เหลือประมาณ 5 ล้านเม็ด ส่วนยาโมนูลพิราเวียร์เหลือ 6.7 ล้านเม็ด ยืนยันว่ามียาเพียงพอ เนื่องจากการใช้ยาขณะนี้มีจำนวนน้อยและลดลง ไม่จำเป็นต้องใช้ยากับผู้ป่วยโควิด-19 ทุกราย เพราะผลข้างเคียงอาจจะมีมากกว่า จึงเก็บยาไว้ใช้กับคนที่มีความเสี่ยงสูง
“นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รายงานการเตรียมความพร้อมด้านยารักษา โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เร่งรัดการจดทะเบียนตำรับยารักษาโรคโควิด-19 โดยองค์การเภสัชกรรมเตรียมสั่งสำรองยา เพื่อจำหน่ายให้หน่วยงานบริการและกระจายยาไปยังคลินิกเวชกรรมให้ได้ ซึ่งในเดือนก.ย.นี้ หน่วยบริการนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุขจะจัดซื้อยา และตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.นี้ ร้านขายยาสามารถจ่ายยาได้ตามใบสั่งแพทย์ และในวันที่ 1 ต.ค.นี้ หน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขจะสามารถจัดซื้อยาได้เอง” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว.- สำนักข่าวไทย