ทำเนียบรัฐบาล 22 เม.ย.-ศบค.เห็นชอบเตรียมมาตรการเปิดเทอมพ.ค.นี้ พบอายุ 5-11 ปี ฉีดวัคซีนไม่ตรงเป้า 5.1 ล้านคน
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. แถลงผลการประชุมศบค.ชุดใหญ่ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธานว่า ที่ประชุมศบค.เห็นชอบเตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุข สำหรับการเปิดภาคเรียนภาคเรียนที่ 1/2565 ในเดือนพ.ค.นี้ เนื่องจากเห็นการติดเชื้อในเด็กตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.- 16 เม.ย. โดยเมื่อนำตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมทุกกลุ่มอายุ เปรียบเทียบกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 อายุ 0-19 ปี ยังมีตัวเลขต่ำ ส่วนผู้เสียชีวิต ได้เปรียบเทียบตามช่วงอายุ 0-5 พบว่ายังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน 28 ราย และ 6-18 ปี ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน 17 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้พูดคุยกับกระทรวงศึกษาธิการว่า นายกรัฐมนตรีในฐานะผอ.ศบค.อยากให้เด็กเรียนปลอดภัยแบบออนไซด์ โดยจะต้องให้เด็กฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น 3 เข็มในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ซึ่งหากพบว่ามีเด็กนักเรียนติดเชื้อโควิด-19 และเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงให้แยกออกไป นอกจากนี้ โรงเรียนประจำและโรงเรียนไป-กลับ กรณีครูนักเรียน หรือบุคลากรเป็นผู้เสี่ยงต่ำ ให้เว้นระยะห่างของนักเรียนในห้องไม่ต่ำกว่า 1 เมตร หากเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง โดยจัดการเรียนการสอนตามมาตรการ Sandbox Safety Zone in School เป็นเวลา 5 วันและให้ติดตามสังเกตอาการอีก 5 วันในโรงเรียนประจำ
“ส่วนโรงเรียนไปและกลับ กรณีครูหรือบุคลากร เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ให้แยกกับตัวที่บ้านเป็นเวลา 5 วันและให้ติดตามสังเกตอาการอีก 5 วัน ทั้งนี้ สถิติการฉีดวัคซีนของเด็กอายุ 5-11 ปี เป้าหมายอยู่ที่ 5.1 ล้านคน แต่ได้รับเข็มที่หนึ่งไป 2.5 ล้านคน หรือ 50% เข็มที่สอง 0.29 ล้านคน และเข็มสามยังไม่ได้ ขณะที่อายุ 12-17 ปี ตั้งเป้า 4.7 ล้านคน เข็มที่หนึ่ง 4.3 ล้านคน เข็มที่สอง 3.9 ล้านคน เข็มที่สาม 7.7 ล้านคน ฉะนั้นจึงต้องมีการเพิ่มในเรื่องการฉีดวัคซีน” โฆษกศบค. กล่าว.-สำนักข่าวไทย