ทำเนียบฯ 10 ก.ค.- “สมคิด” เผยพร้อมลา ครม. ตั้งแต่ปีที่แล้ว เตรียมกลับไปดูแลสุขภาพ เพราะอายุมาก ถอดใจมาหลายปี ระบุ 4 กุมารออกจาก พปชร.ด้วยดี ย้ำปรับ ครม.อยู่ที่นายกฯ เชื่อ 4 กุมารยังอยู่ใน ครม.
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่ากลุ่ม 4 กุมารไม่ได้มาหารือเรื่องการลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เพราะเป็นเรื่องของพรรค ถือเป็นเรื่องปกติ และเป็นการลาออกจากกันด้วยดี ส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีก็เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ตัดสินใจ และว่าการเมืองมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ หากการเมืองดี เศรษฐกิจก็จะดี สังคมก็จะดีขึ้นเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นจะต้องพยายามดูแลการเมืองให้ดี
อย่างไรก็ตาม นายสมคิด ไม่ให้ความเห็นเมื่อถามว่าการเมืองในช่วงนี้เป็นอย่างไร โดยให้เหตุผลว่า ไม่ถนัดเรื่องการเมือง
ต่อข้อถามว่า นายกรัฐมนตรี บอกว่า นายสมคิด มีความพร้อมทุกอย่างสำหรับการปรับคณะรัฐมนตรี นายสมคิด กล่าวว่า ส่วนตัวพร้อมตั้งแต่ปีที่แล้ว เพราะอายุมาก และถอดใจมาหลายปี
เมื่อถามว่าหากปรับคณะรัฐมนตรีแล้วไม่มีกลุ่ม 4 กุมาร นายสมคิด จะยังทำงานอยู่หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะการตั้งคณะรัฐมนตรีจะต้องดูให้ออกว่าใครจะทำอะไร และนำผลประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นหลัก นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
ต่อข้อถามว่า กลุ่ม 4 กุมาร ถือเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐและบรรลุภารกิจแล้ว กรณีที่เกิดขึ้นจะเป็นการเสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ไม่
“เมื่อวานนี้ (9 ก.ค.) มีการแถลงข่าวที่ชัดเจน ถึงวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งพรรค ถือว่าบรรลุภารกิจแล้ว และพร้อมที่จะไปทำหน้าที่อื่น และส่วนตัวก็จะไปดูแลสุขภาพเช่นกัน” นายสมคิด กล่าว
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรี ยกเลิกการประชุม ครม.เศรษฐกิจ วันนี้ (10 ก.ค.) และเรียกประชุมที่ปรึกษาคณะรัฐมนตรีแทนนั้น นายสมคิด กล่าวว่า ถูกต้องแล้วที่นายกรัฐมนตรี จะรับทราบข้อมูลจากภายนอก ก่อนที่จะพิจารณามาตรการต่างๆ วันนี้มีภาคเอกชนและธนาคารแห่งประเทศไทย เข้าร่วมการประชุม มีการเตรียมข้อมูลไว้หมดแล้ว ถือเป็นเรื่องที่ดีที่นายกรัฐมนตรีจะได้เห็นภาพรวมทั้งหมด อีกทั้งนายกรัฐมนตรีให้ความสนใจในเรื่องการแก้ไขปัญหาให้กับผู้ประกอบการ SMEs จึงได้มีการเรียกหารือ เพื่อประชุมถึงมาตรการต่างๆ ซึ่งจะนำผลประชุมเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป
ส่วนจะมีการเพิ่มเติมโครงการอื่นๆ ให้กับประชาชนในช่วงนี้หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ตนจะดูแลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงการคลังเป็นหลัก แต่กระทรวงการคลังไม่สามารถทำทุกอย่างได้ ต้องมีกระทรวงที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจมาเกี่ยวข้องด้วย จึงถูกต้องแล้วที่นายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เพราะรัฐบาลผสมจะต้องเดินไปข้างหน้าพร้อมๆ กัน.- สำนักข่าวไทย