ทำเนียบฯ 8 ก.ค.- นายกรัฐมนตรี เผย ครม.อนุมัติหลักการงบแผนฟื้นฟูระยะแรก 1 แสนล้านบาท เน้นเกษตรและแหล่งน้ำ SMEs ให้ประชาชนมีส่วนร่วม เร่งรัดจ้างงานและส่งออก ขอเวลารัฐบาลทำงาน อย่าบิดเบือน ทุกอย่างต้องเดินหน้าด้วยความรักสามัคคี
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (8 ก.ค.) ว่า ที่ประชุมคระรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักการแผนงานโครงการฟื้นฟูหลังโควิด-19 ระยะที่ 1 จำนวน 1 แสนล้านบาท เน้นหนักเรื่องการเกษตร สร้างความเข้มแข็งให้ประชาชน ให้ความสำคัญกับการดูแลแหล่งน้ำและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของธุรกิจ SMEs ให้เกิดความเหมาะ ให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ในช่วงนี้ จากนั้น ต้องเตรียมการฟื้นฟูระยะ 2 ต่อไป
“สถานการณ์ช่วงนี้อยู่ในช่วงที่ลำบาก รัฐบาลลำบากในการบริหาร ส่วนประชาชนลำบากในการใช้ชีวิต ยืนยันรัฐบาลจะทำอย่างเต็มที่ แต่ต้องขอเวลาในการทำงานให้เหมาะสมกับงบประมาณที่มีอยู่” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุด คือการจ้างงาน เพราะเกิดการว่างงาน ธุรกิจบางประเภทไม่สามารถดำเนินการได้ เช่น การส่งออก เพราะความต้องการของต่างประเทศลดลง ซึ่งเป็นห่วงโซ่การตลาดและสถานการณ์โควิด-19 วันนี้ ได้เร่งรัดเรื่องส่งออกผลไม้ ทั้งทางบก ทางเรือ และพัฒนาด่านชายแดนในการขนส่งกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่รัฐบาลต้องปรับกลไกให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะไม่ได้มีแต่ประเทศไทยได้รับผลกระทบ แต่ได้รับผลกระทบทั่วโลก
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยต้องเร่งรัดการใช้จ่ายในประเทศให้มากขึ้น ฝากถึงประชาชนที่มีสตางค์ให้ช่วยกันใช้จ่าย รวมถึง ให้ทุกหน่วยงานทำแผนงานการจ้างงาน หากงบไม่เพียงพอ รัฐบาลจะเติมเงินให้ โดยให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม เช่น โครงการบวร บ้าน วัด โรงเรียน พร้อมขอให้ธุรกิจ SMEs ระมัดระวังปัญหาหนี้ NPL ในอนาคต ซึ่งรัฐบาลจะหามาตรการที่เหมาะสมในการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ
“วันหยุดที่ผ่านมายังทำงาน ดูเอกสารต่างๆเพราะต้องทำงานเดินหน้าทั้งภาครัฐ เอกชน และเตรียมแผนงาน เตรียมงบประมาณ หากเกิดการแพร่ระบาดอีก แต่ไม่อยากให้ทุกคนห่วงกังวล รัฐบาลจะใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง เพราะจำเป็นต้องกวดขัน ฝากทุกคนช่วยกันมีส่วนร่วม หลายอย่างเดินหน้าไม่ได้ เพราะขาดความเข้าใจและบิดเบือน ฝากสื่อ ฝากสังคมว่า เจตนาของผมและรัฐบาล ต้องการทำให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้า ด้วยความรัก ความสามัคคี ทำให้ประชาชนมีความสุข เราต้องให้ทั้งปลา ทั้งเบ็ด เพราะหากให้แต่ปลา งบไม่เพียงพอ” นายกรัฐมนตรี กล่าว.- สำนักข่าวไทย