ไฟไหม้อาคารบ้านสุขาวดี จ.ชลบุรี วอดหลายล้านบาท

พัทยา 1 ก.ค. – ไฟไหม้อาคารพุทธบารมี ภายในแหล่งท่องเที่ยว บ้านสุขาวดี ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำดับเพลิงหลายสิบคันฉีดสกัด แต่ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ มูลค่าความเสียหายคาดประมาณ 200 ล้านบาท

เมื่อเวลา 10.30 น.ที่ผ่านมา นายอำนาจ เจริญศรี นายอำเภอบางละมุง นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.บางละมุง พร้อมหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครองเข้า หน่วยบรรเทาสาธารณภัยเมืองพัทยา และพื้นที่ใกล้เคียง นำรถน้ำดับเพลิง รถกระเช้า เร่งระงับเหตุเพลิงไหม้ภายในแหล่งท่องเที่ยว บ้านสุขาวดี เลขที่ 228 ม.2 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

จากการตรวจสอบพบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้อาคารพุทธบารมี ซึ่งเป็นอาคารสำหรับกราบไหว้ศักดิ์สิทธิ์ เจ้าหน้าที่นำรถน้ำดับเพลิงหลายนับสิบคันระดมฉีดน้ำสกัด แต่ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ เนื่องจากภายในมีทรัพย์สิน เฟอร์นิเจอร์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งของตกแต่งมากมาย โดยเพลิงไหม้ยังคงปะทุต่อเนื่องและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนตัวอาคารเริ่มร้าว และอาจจะถล่มได้ เนื่องจากเพลิงโหมไหม้นานนับชั่วโมง เจ้าหน้าที่จึงเร่งกันแนวเขตเพื่อป้องกันอันตราย โชคดีไม่มีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ

ส่วนสาเหตุของเพลิงไหม้ จากการสอบถามนางเชอร์รี่ ชาวเมียนมา พนักงานดูแล เล่าว่า ในช่วงเช้าของวันนี้เป็นวันแรกของการเปิดบริการ หลังปิดมานานหลายเดือนจากสถานการณ์โควิด-19 และมีแผนจะเปิดรับนักท่องเที่ยววันนี้ จึงเข้ามาเปิดระบบไฟทิ้งไว้ตั้งแต่ช่วงเช้า ทำความสะอาดตามปกติ กระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 2 ชั่วโมง ได้ยินเสียงดัง และเห็นเพลิงเริ่มลุกไหม้บริเวณเวที ก่อนปะทุและลุกลามอย่างรวดเร็ว


ส่วนอาคารดังกล่าวเป็นหนึ่งในอาคารภายในบ้านสุขาวดี โดย บริษัท เฮ้ลฟู้ด อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือที่รู้จักกันว่า “เครือสหฟาร์ม” ที่มี ดร.ปัญญา โชติเทวัญ เป็นประธาน

ทั้งนี้ อาคารที่เกิดเหตุมีลักษณะเป็นโดม 2 ชั้น ขนาด 65×80 เมตร มีลักษณะเป็นโถงขนาดใหญ่ ซึ่งประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ พระพุทธรูป สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และทรัพย์สินจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายของอาคารคาดว่าประมาณ 200 ล้านบาท ขณะที่ทรัพย์สินภายในจำนวนมากยังไม่สามารถตีเป็นมูลค่าได้ ด้านบ้านสุขาวดีได้จัดทำประกันภัยไว้กับบริษัท ทิพยประกันภัย มูลค่าทั้งโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม จะต้องส่งเจ้าหน้าที่จากสภาวิศวกรเข้ามาตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง