เมลเบิร์น 20 มิ.ย.- รัฐวิกตอเรียที่มีประชากรมากเป็นอันดับสองของออสเตรเลียจะนำมาตรการจำกัดกลับมาใช้ตั้งแต่วันจันทร์หน้าจนถึงวันที่ 12 กรกฎาคม หลังจากยอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขสองหลักมา 4 วันติดกันแล้ว
นายแดเนียล แอนดรูวส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรียแถลงข่าวทางโทรทัศน์ ตำหนิประชาชนว่า ละเลยแนวทางเรื่องการรักษาระยะห่างทางสังคม เช่น กอดจูบกัน จึงได้นำมาตรการห้ามรวมตัวในที่สาธารณะเกิน 10 คน และไปเยี่ยมบ้านเกิน 5 คนกลับมาใช้อีกครั้ง หลังจากผ่อนคลายมาตรการจำกัดตั้งแต่ต้นเดือน ให้รวมตัวหรือเยี่ยมบ้านได้มากถึง 20 คน เป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ที่ครอบครัวในรัฐนี้ต้องการให้ยุติมาตรการจำกัด จึงแสร้งทำเป็นว่าการระบาดยุติลงแล้วทั้งที่ความจริงไม่ใช่ เห็นได้จากการติดเชื้อภายในครอบครัวที่เพิ่มขึ้นมาตั้งเดือนเมษายน ส่วนย่านชานเมืองหากพบว่าเสี่ยงเป็นแหล่งระบาดก็จะถูกเข้มงวดเช่นกัน
รัฐวิกตอเรียมีผู้ป่วยโควิด-19 ราว 1 ใน 4 ของทั้งหมด 7,400 คนทั่วประเทศ พบผู้ป่วยใหม่ 25 คนในวันนี้ หลายคนเป็นสมาชิกหลายครอบครัวที่นัดเจอกัน และพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งที่ใช้กักดูอาการผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ การพบผู้ป่วยใหม่มากขึ้นทำให้แผนการอนุญาตให้ร้านอาหารและคาเฟ่รับลูกค้าได้เพิ่มขึ้นจากครั้งละ 20 คนเป็น 50 คน ต้องเลื่อนจากวันจันทร์หน้าออกไปอีกสามสัปดาห์เช่นกัน ด้านออสเตรเลียนฟุตบอลลีกหรือเอเอฟแอล (AFL) ยกเลิกแข่งขันที่กำหนดมีขึ้นที่นครเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรียวันอาทิตย์นี้ หลังจากผู้เล่นคนหนึ่งตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรนา เอเอฟแอลเพิ่งกลับมาเล่นเมื่อไม่นานมานี้ โดยไม่ให้มีคนดูในสนาม.-สำนักข่าวไทย