จับอดีตสายลับตำรวจแชทลวงเมียฝรั่ง ก่อนจี้ชิงทรัพย์

อุดรธานี 18 มิ.ย.-ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี รวบอดีตสายลับตำรวจแชทผ่านแอปฯ หาคู่ หลอกหญิงวัย 30 ปี ก่อนใช้ปืนจี้ชิงทรัพย์ ได้เงิน-มือถือ-รถจยย. อ้างหาเงินใช้หนี้พนัน 


กรณีเมื่อเวลาประมาณ 18.30 น. ของวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา น.ส.เอ นามสมมุติ อายุ 30 ปี ชาวบ้านในเขตเทศบาลนครอุดรธานี เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองอุดรธานี ว่าถูกคนร้ายเป็นชายอ้างตัวว่าเป็นตำรวจสายสืบ ใช้ปืนจี้ชิงทรัพย์กระเป๋าเงินแบบหนังสีน้ำตาล ข้างในมีเงินสด 7,500 บาท บัตรเอทีเอ็ม 1 ใบ โทรศัพท์มือถือไอโฟน 1 เครื่อง และรถจักรยานยนต์ ก่อนถูกขู่บังคับให้ผู้เสียหาย พาไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มอีก 20,000 บาท แล้วพาไปปล่อยทิ้งไว้ ที่ถนนเลียบคลองชลประทาน บ้านนาทราย ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี 


หลังรับแจ้ง ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี จึงออกติดตามไล่ล่าคนร้ายผ่านทางสัญญาณจีพีเอสของโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายที่คนร้ายยังเปิดเครื่อง และวนเวียนอยู่ในพื้นที่ตัวเมืองอุดรธานี จนกระทั่งมาพบสัญญาณบน ถ.เลี่ยงเมือง อุดรธานี-หนองบัวลำภู ทราบว่าคนร้ายอยู่บนรถแท็กซี่ ตำรวจจึงวิทยุสกัดจับรถแท็กซี่ที่คนร้ายนั่งอยู่ด้านหน้า และขับรถปาดหน้าให้รถแท็กซี่จอด จากนั้นตำรวจจะเข้าตรวจค้นจับกุม แต่คนร้ายชักปืนขึ้นมาเล็งใส่ตำรวจ พร้อมบอกว่าหากเข้ามาในรถจะยิงสู้ ตำรวจจึงใช้ยุทธวิธีก่อนแย่งปืนจากมือของคนร้ายไว้ได้ และทำการจับกุม ซึ่งขณะนั้นผู้เสียหายที่มากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวน

พ.ต.ท.พัฒน์วงศ์ จันทร์พล รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยภายหลังการจับกุมว่าคนร้ายชื่อนายสุขสันต์ หรือนาย ขันแข็ง อายุ 35 ปี เบื้องต้นถูกข้อกล่าวหากรรโชกทรัพย์ และชิงทรัพย์ พร้อมของกลาง ปืนบีบีกัน 1 กระบอก, ซองปืน, ซองกระสุน, กุญแจมือ 1 อัน, ไฟฉาย 1 กระบอก, ซองหนังตราโล่ 1 อัน, รถจักรยานยนต์ 1 คัน, กระเป๋าหนังสีน้ำตาล 1 ใบ,โทรศัพท์มือถือไอโฟน 1 เครื่อง และบัตรเอทีเอ็ม 1 ใบ 


และจากการสอบสวนนายสุขสันต์ ให้การรับสารภาพว่าติดยาบ้า และอ้างว่าเมื่อหลายปีที่ผ่านมา เคยเป็นสายให้ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.อุดรธานี ที่ทำไปเพราะต้องการเงินไปใช้หนี้การพนันออนไลน์ หลังจากแชทแอปฯบาดู กับผู้เสียหาย เมื่อ 3 วันที่ผ่านมา ก่อนวางแผนกรรโชกทรัพย์ผู้เสียหายในบ้านพัก ภายในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งในตัวเมืองอุดรธานี โดยใช้ปืนปลอมขู่บังคับให้ผู้เสียหายพาไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มหน้าร้านสะดวกซื้อในเขตเทศบาลนครอุดรธานี แล้วคนร้ายนำตัวไปปล่อยทิ้งไว้ที่ถนนนอกตัวเมือง ก่อนคนร้ายหลบหนีไปพร้อมกับรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย และนำรถไปซ่อนไว้ในหอพักแห่งหนึ่งในเขต ต.บ้านเลื่อม ก่อนจ้างแท็กซี่ให้ขับวนเวียนอยู่ในตัวเมืองอุดรธานี เพื่อทำการโอนเงินที่ได้มาใช้หนี้พนันออนไลน์จนหมด ก่อนตำรวจไล่ติดตามมาจับกุมตัว

จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยถูกจับกุมตัวในข้อหาลักทรัพย์ ปี 2560 ติดคุก 6 เดือน ส่วนที่อ้างว่าเป็นสายลับให้ตำรวจ จากการตรวจสอบทราบว่าคนร้ายเคยเป็นสายให้ตำรวจจริง แต่ประพฤติตนไม่เหมาะสม และชอบอ้างตัวเป็นตำรวจ ทำการตักเตือนมาหลายครั้ง แต่ไม่เชื่อฟังจึงถูกสั่งไม่ให้เข้ามาทำหน้าที่สายลับ 

ด้าน น.ส.เอ ผู้เสียหาย ให้การว่ามีสามีเป็นชาวต่างชาติ รู้จักกับนายสุขสันต์ ในชื่อเจมส์ จากการแชทบาดูได้เพียง 3 วัน และคิดว่าเป็นคนดี จึงคุยตอบแชทด้วย ก่อนเกิดเหตุนายสุขสันต์ นั่งรถแท็กซี่มาหาตนที่บ้านพัก ตนก็ให้การต้อนรับและไม่คิดอะไร นอกเหนือจากความเป็นเพื่อน ระหว่างตนกำลังตากผ้าอยู่หลังบ้าน คนร้ายได้ชักอาวุธปืนออกมาขู่ และนำกุญแจมือมาใส่ที่ข้อมือทั้งสองข้างของตน ซึ่งตอนนั้นลูกสาวของตนวัย 11 ขวบ ดูทีวีอยู่ จากนั้นคนร้ายบอกว่าตนมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งที่ตนไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และหากไม่อยากโดนจับดำเนินคดี ให้เอาเงินมาแลกกับการปล่อยตัว 100,000 บาท และอย่านำเรื่องไปบอกใคร หากไม่เชื่อจะฆ่าให้ตาย เพราะกำลังเดือดร้อนในหน้าที่การงาน ซึ่งทำให้ตนตกใจมาก เนื่องจากคนร้ายมีลักษณะเหมือนคนเมายาบ้า ตนจึงตั้งสติยอมทำตามที่คนร้ายบอก เพราะกลัวว่าตัวเองและลูกสาวจะได้รับอันตราย 

หลังยอมทำตามคนร้ายจึงพาตนนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ตนเองไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มหน้าร้านสะดวกซื้อ เขตเทศบาลนครอุดรธานี 20,000 บาท และบอกว่าจะพาไปเซฟเฮาส์ และยังแวะขี่เข้ามาใน สภ.เมืองอุดรธานี ทำทีให้เหมือนว่าเป็นตำรวจตัวจริง ตนเชื่อเพราะมีปืน และมีซองตราโล่ตำรวจแขวนอยู่ที่คอด้วย จากนั้นคนร้ายได้พาตนขี่รถไปทางเปลี่ยว และจอดรถแย่งเอาโทรศัพท์มือถือจากตนไป พร้อมชักปืนออกมาขู่ว่าจะยิงทิ้ง หากนำเรื่องไปบอกใคร ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ของตนหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ตนจึงได้ร้องขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดีให้พามาแจ้งความตำรวจที่โรงพัก และติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้ในที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง