วอชิงตัน 4 มิ.ย.- นายเจมส์ หรือจิม แมตทิส อดีตรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐกล่าวหาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ว่า พยายามแบ่งแยกสหรัฐอเมริกา และไม่แสดงความเป็นผู้นำที่มีวุฒิภาวะในยามที่ประเทศกำลังซวนเซเพราะมีการประท้วงต่อเนื่องหลายวันจากเหตุคนดำเสียชีวิตรายล่าสุด
นายแมตทิส วัย 69 ปี ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมตั้งแต่ทรัมป์ขึ้นเป็นประธานาธิบดีในเดือนมกราคม 2560 ก่อนลาออกในเดือนธันวาคม 2561 เพราะไม่เห็นด้วยที่ทรัมป์สั่งถอนทหารอเมริกันทั้งหมดออกจากซีเรีย เว็บไซต์นิตยสารดิแอตแลนติกนำถ้อยแถลงของเขามาโพสต์เมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า โดนัลด์ ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีคนแรกในช่วงชีวิตของเขาที่ไม่พยายามรวมรวมชาวอเมริกันให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่แม้แต่จะเสแสร้งแสดงให้เห็น แต่กลับพยายามแบ่งแยกชาวอเมริกัน และไม่เคยแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำที่มีวุฒิภาวะตลอดสามปีมานี้ เขาโกรธและตกใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรมที่เท่าเทียมซึ่งเป็นเรื่องที่ดีงามและเป็นหนึ่งเดียว แต่ทรัมป์กลับใช้อำนาจบริหารในทางมิชอบ ด้วยการใช้กำลังสลายผู้ประท้วงอย่างสันติหน้าทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ เพียงเพื่อเปิดทางให้เขาข้ามฝั่งไปโพสต์ท่าถ่ายรูปที่โบสถ์เซนต์จอห์นส์
นายพลนาวิกโยธินวัยเกษียณผู้เคยกล่าวหลังจากลาออกไปแล้วหลายเดือนว่า เป็นการไม่เหมาะสมที่จะวิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีที่ยังอยู่ในตำแหน่งและยืนกรานว่าทหารต้องเป็นกลางทางการเมืองระบุว่า ตอนที่รับราชการทหารเมื่อ 50 ปีก่อนเขาให้สัตย์สาบานว่าจะสนับสนุนและปกป้องรัฐธรรมนูญ ไม่เคยคิดเลยว่าทหารที่ให้สัตย์สาบานแบบเดียวกับเขาจะถูกสั่งให้ละเมิดสิทธิของประชาชนตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ พร้อมกับประกาศว่าชาวอเมริกันสามารถเป็นหนึ่งเดียวได้โดยไม่ต้องมีทรัมป์ และยืนอยู่บนความแข็งแกร่งที่เป็นคุณสมบัติของสังคมพลเมืองอเมริกันได้เอง
ด้านทรัมป์ทวีตตอบโต้ว่า บางทีสิ่งที่เดียวที่เขาและบารัค โอบามามีเหมือนกันก็คือ การได้ปลดนายแมตทิส นายพลที่ถูกประเมินค่าสูงเกินจริงพ้นจากตำแหน่งอย่างสมศักดิ์ศรี ซึ่งหมายถึงเรื่องที่โอบามาเมื่อครั้งเป็นประธานาธิบดีปลดแมตทิสพ้นจากตำแหน่งผู้บังคัญชาการกองกำลังกลางสหรัฐในปี 2556 เพราะแสดงทัศนะเรื่องอิหร่านอย่างแข็งกร้าว.-สำนักข่าวไทย