ผุด 2 แพ็กเกจ “เที่ยวปันสุข” และ “กำลังใจ” กระตุ้นท่องเที่ยว

กทม. 3 มิ.ย.-พรุ่งนี้ ททท. เตรียมหารือ ก.คลัง ถึงมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ 2 แพ็กเกจ หวังเงินสะพัดจากการท่องเที่ยวในประเทศปีนี้ 400,000-500,000 ล้านบาท  


นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. บอกว่า ททท. เตรียมมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. แบ่งเป็น 2 แพ็กเกจ คือ แพ็กเกจกำลังใจ เพื่อตอบแทนบุคลากรที่ปฏิบัติงานแนวหน้าในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เช่น อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จำนวน 1.2 ล้านคน โดยจะสนับสนุนงบประมาณสำหรับการศึกษาดูงาน 3 วัน 2 คืน ผ่านบริษัทนำเที่ยวในประเทศ


ส่วนอีกแพ็กเกจ คือ แพ็กเกจเที่ยวปันสุข บัตรกำนัลดิจิทัล ต้องเป็นการเดินทางข้ามจังหวัด ประชาชนทั่วไปที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 4 ล้านคน ภาคละ 1 ล้านคน โดยจะเปิดลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิซื้อ Voucher สำหรับเป็นค่าห้องพัก เมื่อประชาชนนำ Voucher ดังกล่าวไปเช็กอินห้องพัก รัฐจะโอน เงินคืนให้กับประชาชน ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งต้องเงินที่โอนเงินไปใช้จ่ายในโรงแรม เช่น ห้องพัก ห้องอาหาร สปา ร้านขายสินค้าที่ระลึก เป็นต้น แต่ว่ารายละเอียดของวงเงินยังไม่ได้ข้อสรุป ทั้งแพ็กเกจแรกเพื่อบุคลากรทางการแพทย์ ส่วนแพ็กเกจที่ 2 อาจจะจ่ายเงินให้ทีเดียวประมาณ 2,000 บาท หรือ 3,000 บาทต่อคน หรือวงเงินรวมประมาณ 8,000 ล้านบาท หรือ 12,000 ล้านบาท

ผู้ว่าการ ททท. บอกถึงเหตุผลที่ต้องออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศเพราะว่า ธุรกิจการท่องเที่ยวถือเป็นธุรกิจแรกๆ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ค่อนข้างรุนแรง และช่วงนี้เป็นช่วงโลว์ซีซั่น การออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม คาดว่าจะช่วยพยุงธุรกิจท่องเที่ยวที่มีแรงงานประมาณ 2.5 ล้านคน ให้คงอยู่ได้ และหวังว่าเมื่อถึงช่วงไฮซีซั่น ธุรกิจท่องเที่ยวจะเดินไปด้วยตัวเองได้


นายยุทธศักดิ์ บอกด้วยว่าปีที่แล้วไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวเข้าประเทศ 3 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวในประเทศ 1 ล้านล้านบาท หรือ 1 ใน 3 ปีนี้ ตั้งเป้ารายได้จากการท่องเที่ยวทั้งหมด 1.23 ล้านล้านบาท และคาดหวังเงินจากการท่องเที่ยวในประเทศ 400,000-500,000 ล้านบาท จาก 2 มาตรการนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง