กรุงเทพฯ 1 มิ.ย.- “พล.ต.อ.สุวัฒน์” ลงพื้นที่ จ.มุกดาหาร ติดตามคดี “น้องชมพู่” เผยคืบหน้ากว่า 50 เปอร์เซ็นต์ สอบพยานไปแล้วกว่า 100 ปาก คัดแยกกลุ่มต้องสงสัย-รอผลดีเอ็นเออย่างละเอียดเพื่อควานหาตัวคนร้าย
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบ.ตร. เดินทางลงพื้นที่ สภ.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เพื่อประชุมติดตามความคืบหน้า น้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ชาวบ้านกกกอก หมู่ 2 เสียชีวิตบริเวณป่าภูเหล็กไฟ บ้านกกกอก หมู่ 2 ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร หลังหายตัวไปตั้งแต่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ รองผบช.ภ.4 พล.ต.ต.อรรคพงศ์ พิมลศิริ ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผบก.สส.ภ.4 พ.ต.อ. ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.ปส.3 โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
พล.ต.อ.สุวัฒน์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า วันนี้ (1 มิ.ย.)เดินทางลงพื้นที่เพื่อร่วมประชุมกับชุดสืบสวนของพื้นที่ บก.ภ.จว.มุกดาหาร บก.สส.บช.ภ.4 บก.สส.บช.น. ชุด ศปอส.ตร. เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดีซึ่งการทำงานมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ แต่การสืบสวนจะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้รอบด้าน เนื่องจากคดีดังกล่าวมีรายละเอียดค่อนข้างมาก และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจจะไม่มีโชคในเรื่องของการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งรวบรวมพยานหลักฐานมาได้ค่อนข้างน้อย
“แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังมีความหวังอยู่และพยายามค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยการลงพื้นที่ซักถามปากคำพยานในพื้นที่ รวมถึงตรวจสอบข้อมูลทางด้านเทคนิค ส่วนจะสงสัยใครบ้างนั้น จะไม่มีการพูดให้ข้อมูลในลักษณะดังกล่าวแต่อย่างใด หากใครที่เข้าข่ายจะต้องตรวจสอบก็จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง พยานบางรายอาจจะมีการเรียกคุยหลายรอบแต่ก็ไม่ได้มีการตั้งข้อสงสัยใครมากเป็นพิเศษ เพราะอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับว่ามีความสอดคล้องกันกับพยานหลักฐานหรือไม่ อาจจะมีความขัดแย้งหรือไม่ก็เป็นไปได้ทั้งหมด” รองผบ.ตร. กล่าว
พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีการนำเสนอข่าวออกไปนั้น คงไม่สามารถยืนยันได้ เพราะหากนำเสนอข้อเท็จจริงสืบสวนสอบสวนออกไปอาจจะทำให้เกิดความเสียหาย อย่างไรก็ตาม ฝากผ่านไปยังพี่น้องสื่อมวลชนว่า หากพี่น้องประชาชนมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวน อาทิเช่น รู้เห็นการกระทำของใคร มาบอกต่อทางทีมงานชุดสืบสวนยินดีรับฟังและจะปกปิดการให้ข้อมูลของท่านเป็นความลับ เพื่อทำการพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงดังกล่าวโดยละเอียด ทั้งนี้ทีมงานสืบสวนจะไม่ไปไหนจะทำงานจนกว่าจะถึงที่สุด หวังจะคลี่คลายคดีนี้แล้วนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษในคดีนี้ได้
เมื่อถามถึงประเด็นการก่อเหตุนั้น พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตั้งประเด็นไว้เป็นกรอบกว้างๆ ไม่ได้ไปเรื่องทางเพศเพียงอย่างเดียว เน้นไปที่อะไรที่สามารถเข้าถึงตัวเด็กที่เป็นเหยื่อได้ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ ใครที่มีเรื่องจูงใจหรือความคิดอาจจะก่อเหตุลักษณะดังกล่าว ซึ่งมีความเป็นไปได้ทั้งหมดที่อาจจะเป็นผู้หญิงหรือเป็นผู้ชาย ซึ่งต้องตรวจสอบทั้งหมด โดยไม่ได้มีการกำหนดว่าเจตนาทำให้เสียชีวิตหรือไม่ หากตีกรอบให้แคบลงเท่ากับเราตัดโอกาสของตัวเอง
เมื่อถามถึงผลการชันสูตรพลิกศพน้องชมพู่ตายด้วยสาเหตุใดนั้น พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า รายงานการชันสูตรพลิกศพของแพทย์ได้ออกมาแล้วที่ รพ.อุบลราชธานี ซึ่งกรณีรายงานผลการตรวจสอบจากแพทย์นิติเวช หากทราบสาเหตุการเสียชีวิตจะมีการระบุไว้ แต่ถ้าระบุไม่ได้ก็ไม่ได้แปลว่าจะใช่หรือไม่ใช่แบบนั้น จะไม่มีการพูดให้ไขว้เขวเพื่อป้องกันการเข้าใจผิด จึงไม่ขอพูดถึงสาเหตุการเสียชีวิตกรณีดังกล่าวเพราะเป็นเรื่องในสำนวนการสอบสวน ส่วนการตรวจสอบดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องนั้น ยังอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบพยานหลักฐานบางส่วนอยู่
ส่วนพยานหลักฐานพวกเสื้อชุดทหาร กุญแจรถนั้น พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่งการลงพื้นที่ที่เกิดเหตุเป็นเรื่องหนึ่ง การเก็บพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อาจมีส่วนที่เกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้องก็เป็นไปได้ทั้งหมด ที่เกิดเหตุมีหลายที่ที่เราพบคือการพบศพ ไม่ได้แปลว่าที่พบศพเป็นที่เกิดเหตุจะใช่หรือไม่ใช่เป็นไปได้หมด ซึ่งการเก็บหลักฐานกรณีดังกล่าวค่อนข้างยากมาก ทั้งนี้ ต้องรอผลการพิสูจน์ทราบกรณีดังกล่าวให้ชัดเจนก่อน
ขณะท่ี่การเก็บข้อมูลของชาวบ้านในพื้นที่โดยรอบเป็นประโยชน์หรือไม่นั้น พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นประโยชน์ เนื่องจากเพื่อให้รู้ว่าวันเวลาเกิดเหตุใครอยู่ที่ไหนหรือทำอะไรอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานกันทุกวัน จะเอาเวลาเป็นตัวตั้งไม่ได้ถึงแม้จะผ่านมา 2 เดือนแล้วก็ตาม เพราะแต่ละคดีไม่เหมือนกัน ส่วนภายในร่างของน้องชมพู่มีดีเอ็นเอของบุคคลอื่นหรือไม่ จากการรายงานเบื้องต้นยังไม่พบดีเอ็นเอแปลกปลอมแต่อย่างใด แต่ไม่ใช่แปลว่าอาจจะไม่มีการถูกสัมผัส ซึ่งการตรวจสอบจะต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง ส่วนที่มีการกล่าวอ้างว่ามีคนในพื้นที่นำศพน้องชมพู่ไปทิ้งไว้กลางป่านั้น เจ้าหน้าที่ไม่ได้ให้ข้อมูลดังกล่าวแต่อย่างใด แต่ดูว่าใครสามารถเข้าถึงตัวเด็กได้ระหว่างวันเวลาที่เกิดเหตุ กรณีนี้พอมีเบาะแส แต่ไม่ขอเปิดเผย .-สำนักข่าวไทย