กรุงเทพฯ 28 พ.ค. – สหกรณ์ชาวสวนผลไม้ภาคตะวันออกนำมังคุดคุณภาพ 200 ตัน ส่งมอบให้กระทรวงกลาโหม มุ่งหวังช่วยเกษตรกรที่ประสบปัญหาส่งออกไม่ได้ให้มีตลาดระบายผลผลิต
นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมด้วยตัวแทนสหกรณ์ชาวสวนผลไม้ภาคตะวันออก นำมังคุดคุณภาพจากสหกรณ์นิคมวังไทร จำกัด จังหวัดระยอง 17 ตัน ส่งมอบพลเอก ชูชาติ บัวขาว รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้แทนส่วนราชการในกองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) ที่กองบัญชาการกองทัพไทย เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ตามโครงการของกระทรวงกลาโหมที่ให้หน่วยงานและเหล่าทัพรับซื้อผลไม้ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยเฉพาะเดือนพฤษภาคมนี้เป็นช่วงที่มีผลผลิตออกมาก ป้องกันผลผลิตล้นตลาด ทำให้ราคาตกต่ำ เกษตรกรยังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด – 19 ทำให้ตลาดต่างประเทศชะลอการสั่งซื้อ ขณะที่ตลาดในประเทศหยุดชะงัก เนื่องจากไม่สามารถขนส่งสินค้าได้สะดวก ซึ่งโครงการนี้จึงช่วยแก้ปัญหาผลิตล้นตลาดและช่วยไม่ให้ราคาตกต่ำ
ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมประสานมายังกรมส่งเสริมสหกรณ์ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร โดยรับซื้อผลผลิตมังคุดที่มีคุณภาพจากสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร 200.36 ตัน มูลค่า 4.71 ล้านบาท จากนั้นจะส่งมอบให้หน่วยงานส่วนกลางและส่วนภูมิภาคของหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองทัพอากาศ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม หน่วยขึ้นตรงกองทัพบก และกองบัญชาการกองทัพไทย เพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่กำลังพล อีกส่วนหนึ่งนำไปมอบให้ชาวบ้านในชุมชนที่อยู่โดยรอบได้บริโภคด้วย
นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงกลาโหมรับซื้อมังคุดแล้ว 113.78 ตัน มูลค่ากว่า 2.67 ล้านบาท และกระจายไปยังหน่วยงานของกองทัพทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค 49 จังหวัดทั่วประเทศ แบ่งเป็นหน่วยงานส่วนกลาง 52.94 ตัน มูลค่า 1.24 ล้านบาท ส่วนภูมิภาค 60.84 ตัน มูลค่า 1.43 ล้านบาท และยังมีปริมาณคงเหลือที่รอทยอยจัดส่งให้อีก 86.61 ตัน ปีนี้รัฐบาลจัดสรรงบกลางปี วงเงิน 45 ล้านบาท สำหรับดำเนินโครงการกระจายผลไม้ของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโควิด – 19 ให้เป็นค่าดำเนินการและชดเชยค่าขนส่งให้กับสหกรณ์ต้นทางและปลายทาง จัดทำแหล่งที่รวบรวมและกระจายมังคุดและลำไย รวมถึงให้สหกรณ์นำไปจัดซื้อตะกร้าสำหรับขนส่งผลไม้ด้วย สำหรับสถานการณ์การผลิตมังคุดของสหกรณ์ภาคตะวันออกนั้น จะมีผลผลิตออกมาระหว่างวันที่ 15-30 พฤษภาคม นอกจากนี้ ยังได้จัดทำข้อมูลการรวบรวมและกระจายมังคุดของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ล่าสุดมีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร 13 แห่ง รวบรวมผลผลิตไปแล้ว 148.932 ตัน มูลค่ากว่า 3.72 ล้านบาท และกระจายสู่สหกรณ์ปลายทาง 59 แห่งทั่วประเทศ
“กรมส่งเสริมสหกรณ์จัดสรรเงินกู้จากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ วงเงิน 190 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 1 % ขณะนี้มีสหกรณ์ขอกู้เงินดังกล่าวแล้ว 87 ล้านบาท สำหรับนำเป็นทุนหมุนเวียนรวบรวมผลผลิตจากสมาชิกตลอดช่วงฤดูกาลผลิตปีนี้ เพื่อให้การกระจายผลไม้สู่ตลาดเป็นไปอย่างรวดเร็ว ไม่กระจุกตัว ทำให้การจำหน่ายผลผลิตไปสู่ผู้บริโภคนั้น เกิดประสิทธิภาพและสามารถกำหนดราคาซื้อขายที่เป็นธรรมได้อีกด้วย” นายพิเชษฐ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย