ชุลมุนหวิดโดนรุมประชาทัณฑ์ ขณะคุมตัวทำแผนพี่ยิงน้องชายดับ 2 ศพ

กทม. 26 พ.ค. – มอบตัวแล้ว พี่ชายยิงน้องชายดับ 2 ศพ เหตุทะเลาะกันเรื่องมรดกพ่อ ตำรวจคุมตัวทำแผน หวิดโดนรุมประชาทัณฑ์


นี่เป็นภาพเหตุการณ์ความชุลมุนขณะตำรวจคุมตัวนายเสรี มุสตอฟาดี อายุ 45 ปี ที่ก่อเหตุยิงนายวีระชัย มุสตอฟาดี อายุ 37 ปีและนายศรายุทธ มุสตอฟาดี อายุ 39 ปี น้องชาย 2 คน เสียชีวิต ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังเข้ามอบตัว แต่ระหว่างทำแผนบรรดาชาวบ้านที่มารอดูเหตุการณ์พยายามเข้าไปรุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหา จนตำรวจต้องรีบพาตัวออกจากจุดทำแผนขึ้นรถตู้ออกไปทันที ซึ่งระหว่างนั้นมีชาวบ้านตามไปจนถึงรถตู้อีกด้วย 


ก่อนหน้านี้ นายเสรี มุสตอฟาดี ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ในฐานความผิดฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร เข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ รักสลาม รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 หลังก่อเหตุยิงน้องชาย 2 คนเสียชีวิต จากสาเหตุทะเลาะกันเรื่องทรัพย์สินมรดกของบิดา ที่บ้านไม่มีเลขที่ ในซอยสุวินทวงศ์ 28 แยก 17 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา


พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ส่วนสาเหตุเกิดจากปัญหาเรื่องมรดกของบิดา และเรื่องผู้จัดการมรดกที่ยังตกลงกันไม่ได้ จนมีปากเสียงก่อนผู้ต้องหาจะใช้ปืนลูกโม่ .38 ซึ่งเป็นปืนมรดกจากบิดา ยิงใส่น้องชายทั้งสองคนจนเสียชีวิต หลังเกิดเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ หลบหนีไปที่ท้องซากรถเก่า ย่านคู้ขวา และนำรถจักรยานยนต์ไปจอดไว้ที่สุเหร่า ส่วนอาวุธปืนอ้างว่าหล่นระหว่างทางขับรถ จยย.หลบหนี จึงสั่งการให้ฝ่ายสืบสวน บก.น.3 ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาจุดทิ้งอาวุธปืน  

จุดที่ทำแผนคือบ้านหลังเกิดเหตุ นายศรายุทธ น้องชายคนที่ 3 เดินทางมาพร้อมกับนายวีระชัย น้องชายคนที่ 4 ด้วยรถจักรยานยนต์ 2 คัน โดยมีลูกชายขี่มาส่ง และลูกชายขี่กลับออกไป เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้เข้าไปพูดคุยเจรจากับนายเสรี พี่ชายคนโต (ผู้ต้องหา) เรื่องรถกระบะ ที่ก่อนหน้านี้เคยทะเลาะมีปากเสียงกันเรื่องทรัพย์สินมรดกและรถกระบะคันดังกล่าวแล้ว แต่ตกลงกันไม่ได้ ก่อนที่นายเสรีจะคว้าปืนมายิง และขี่ จยย.หลบหนีไป 

หลังทำแผนเจ้าหน้าที่นำตัวกลับมาควบคุมต่อที่ สน.ฉลองกรุง รอยื่นฝากขังต่อศาลต่อไป พร้อมคัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน . – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส กับมีลมแรงในภาคอีสาน ส่วนบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสานตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

เรือใบอิตาลีที่สวยงามที่สุดในโลกเดินทางถึงภูเก็ตแล้ว

ภูเก็ตคึกคัก เรือใบอิตาลีที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดลำหนึ่งของโลก ออกเดินทางมาแล้วรอบโลก ได้เข้าจอดเทียบท่าจังหวัดภูเก็ต โดยมีทัพเรือภาคที่ 3 ให้การต้อนรับทหารเรืออิตาลีกว่า 150 นาย อย่างอบอุ่นพร้อมเปิดให้ประชาชนขึ้นชมเรือฟรีได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.)

พระเปย์สีกา ช่องโหว่ผลประโยชน์ในดงขมิ้น

รองเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในมหาสารคาม ขอลาสิกขากลางดึก หลังถูกแฉ เป็นพระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ขณะที่รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งตรวจสอบว่า เป็นเงินส่วนตัว หรือ เงินวัด เพราะจะมีความผิดแตกต่างกัน