ฉะเชิงเทรา 27 มี.ค. – ชาวบ้านฮือ ประชาทัณฑ์คนร้าย ศิษย์วัดดังจังหวัดฉะเชิงเทรา งัดกุฏิเจ้าอาวาสยกเซฟ เชิดเงินสดกว่า 7 แสน
ชาวบ้านเข้ารุมประชาทัณฑ์ นายอนุชา อายุ 38 ปี 1 ใน 2 คนร้าย ที่ร่วมกันยกตู้เชฟของเจ้าอาวาสวัดสนามจันทร์ และวันนี้ ตำรวจ สภ.บ้านโพธิ์ นำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่วัด ชาวบ้านที่รู้ข่าวเลยมาดักรอ และรุมทำร้ายด้วยความโกรธ ว่าทำไมถึงทำได้ ทั้งที่หลวงพ่อ ให้ความเมตตา เลี้ยงดู ไว้เนื้อเชื่อใจ ให้เข้าออกวัดได้ตลอดเวลา
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 มี.ค.67 (22.00 น.) สภ.บ้านโพธิ์ ได้รับแจ้งจาก พระปลัดชนินทร์ อภินันโท รองเจ้าอาวาสวัดสนามจันทร์ ว่า หลังกลับจากเทศน์งานศพภายในวัด กลับมายังกุฏิ ได้รับแจ้งจาก “พระครูโสภิต สุตคุณ” เจ้าอาวาส ว่ามีคนร้ายมาลักทรัพย์ภายในกุฏิที่พักอยู่ด้วยกัน เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบร่องรอยประตู หน้าต่างถูกงัดแงะ มีทรัพย์สินที่สูญหายไป คือตู้เซฟ น้ำหนัก 60 กก. ภายในมีเงินสดประมาณ 700,000 บาท สมุดบัญชีธนาคารวัดและของเจ้าอาวาส จำนวน 7 เล่ม, ใบสุทธิและบัตรประชาชนของพระครูโสภิต จึงมาแจ้งความที่ สภ.บ้านโพธิ์ เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี
ต่อมาชุดสืบสวนลงพื้นที่ ตรวจสอบกล้องวงจรปิด จับภาพชาย 2 คน ซึ่งพระปลัดชนินทร์ยืนยันว่า บุคคลที่ 1 ที่เห็นในกล้อง คือนายฐณดล หรือ “ทิดนุ” อายุ 41 ปี และบุคคลที่ 2 คือนายอนุชา หรือ “โย” อายุ 38 ปี ขณะเดินเข้ามาในห้องเก็บของและขณะที่ทั้งสองกำลังยกตู้เซฟเดินออกจากห้องขึ้นรถตู้หลบหนีไป โดยพระปลัดชนินทร์ ให้การว่าก่อนเกิดเหตุนายฐณดล เป็นผู้มาขออนุญาตเจ้าอาวาสขอใช้รถตู้สีเทาซึ่งเป็นรถยนต์ของวัด คันที่เห็นในกล้องวงจรปิดเหตุ และยืนยันตัวบุคคลที่ปรากฏในภาพว่า เป็นนายฐณดล และนายโย โดยนายฐณดล เข้าออกกุฏิเจ้าอาวาสเป็นประจำ อาศัยหลับนอนอยู่ใต้ถุนกุฏิ เป็นฆราวาสเพียงคนเดียวที่มีกุญแจ เปิดเข้าออกห้องเก็บของและห้องเชื่อมต่อไปยังห้องเจ้าอาวาสได้ ส่วนนายโย เข้ามาทำงานรับจ้างให้วัด หลังถูกนายจ้างเลิกจ้างเพราะมีปากเสียงกัน จึงมาปรึกษานายฐณดล และนำมาฝากเจ้าอาวาส ด้วยความสงสารจึงให้ทำงานที่สวนและพักอาศัยอยู่ด้วยกัน และหลังเกิดเหตุทั้งสองหายไปไม่สามารถติดต่อได้
ต่อมาวันที่ 24 มี.ค. นายฐณดล หนึ่งในผู้กระทำผิดเข้ามอบตัว และให้การรับสารภาพว่า ตนและนายอนุชา คือผู้ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ หลังแบ่งเงินกันแล้วก็แยกย้ายกันไปและไม่สามารถติดต่อนายอนุชาได้อีกเลย
สำหรับนายฐนดล ตำรวจนำตัวทำแผนไปก่อนหน้านี้แล้ว ขณะนี้ฝากขังที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ส่วนนายโยรับสารภาพว่าเงินที่แบ่งกันมาใช้จ่ายไปหมดแล้ว โดยนำไปซื้อรถเก๋งมือสองแล้วหลบไปซ่อนตัวที่ จ.สุพรรณบุรี ก่อนถูกตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านโพธิ์ ตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้ในที่สุด
ทั้งนี้ นายโย ได้เข้ากราบขอขมากับเจ้าอาวาสวัดด้วย ซึ่งเจ้าอาวาส บอกว่าไม่เป็นไร และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการไปตามกฎหมาย .-สำนักข่าวไทย
