ทำแผนมือมีดแทงผิดตัวหนุ่มวัย 17 ดับ ชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์

ศรีสะเกษ 7 พ.ย. – ตำรวจคุมตัวมือมีดทำแผนแทงผิดตัว ทำเด็กหนุ่มวัย 17 ปี เสียชีวิต ชาวบ้านฮือรุมประชาทัณฑ์และตะโกนสาปแช่ง ด้านผู้ต้องหาก้มกราบขอขมาพ่อแม่ผู้ตาย อ้างไม่ได้ตั้งใจ ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ชุลมุน ต้องป้องกันตัว


นี่เป็นภาพนาทีแห่งความโกรธแค้นของชาวบ้านและครอบครัว “น้องโม” เด็กหนุ่มวัย 17 ปี ที่ทั้งตะโกนด่าทอ สาปแช่ง และรุมประชาทัณฑ์ นายธนพนธ์ หรือ ปลื้ม อายุ 24 ปี มือมีดที่ก่อเหตุแทงผิดตัว จนเป็นเหตุให้ “น้องโม” เสียชีวิตภายในบ้าน

การทำแผนฯ วันนี้ (7 พ.ย.66) ตำรวจ สภ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ คุมตัวนายปลื้ม ที่ถูกจับกุมได้พร้อมน้องชายวัย 15 ปี ออกจากโรงพักไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยจุดแรกเป็นจุดที่กล้องวงจรปิดจับภาพนายปลื้ม จูงรถจักรยานยนต์ที่น้ำมันหมด หลังบุกไปแทงน้องโม จุดที่ 2 เป็นจุดที่มีเรื่องทะเลาะกันที่งานหมอลำ และจุดที่ 3 เป็นจุดที่คนร้ายลงมือแทงน้องโมเสียชีวิต ซึ่งจุดนี้มีพ่อและแม่ ถือรูปน้องโมมารอดูหน้านายปลื้ม โดยมีชาวบ้านในหมู่บ้านเกือบ 100 คน มาดูการทำแผนฯ แทบจะเต็มพื้นที่ และขณะพานายปลื้มลงรถตู้ไปทำแผนฯ รวมถึงช่วงที่ทำแผนในจังหวะแทงน้องโมในบ้าน มีเสียงก่นด่าของชาวบ้านเซ็งแซ่ตลอดเวลา


“ปลื้ม” ขอขมาพ่อแม่ พูดซ้ำๆ “ผมขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจแทง”

ภายหลังทำแผนฯ ภายในบ้านเสร็จ ตำรวจได้ให้นายปลื้มไปขอขมาพ่อแม่ที่ถือรูปของน้องโม และร้องไห้ด้วยความโศกเศร้าเสียใจ นายปลื้มได้เข้าไปก้มกราบพ่อกับแม่ พร้อมกับบอกว่า “ผมต้องขอโทษด้วย ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะแทงจริงๆ” ขณะที่พ่อแม่ของน้องโม ถามกลับ “ทำไมถึงแทงน้องโม น้องก็บอกแล้วว่าไม่เกี่ยว แต่ทำไมถึงแทง” ซึ่งนายปลื้มก็ได้แต่พูดว่า “ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ”

ก่อนที่ตำรวจจะพานายปลื้มขึ้นรถตู้ออกจากจุดนี้ เพื่อไปทำแผนฯ ต่อที่จุดอื่น แต่กลับเกิดเหตุการณ์ชุลมุน ชาวบ้านและญาติพี่น้องของน้องโม ต่างสุดทนกรูเข้าไปรุมประชาทัณฑ์นายปลื้ม ทำให้ตำรวจต้องรีบพาตัวนายปลื้มขึ้นรถตู้กลับ ขณะที่พ่อกับแม่ของน้องโม นั่งกอดรูปลูก ร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด และทำท่าจะเป็นลม ชาวบ้านต้องเอายาดมมาให้และช่วยปลอบ


“ปลื้ม” อ้างแทงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ชุลมุน ต้องป้องกันตัว

ด้านนายปลื้ม เสร็จจากการทำแผนจุดนี้ ตำรวจได้พาไปชี้จุดบริเวณที่จะเดินทางเข้าไปในตัวอำเภอน้ำเกลี้ยง จุดนี้นายปลื้มได้เข็นรถมาซื้อน้ำมันเติมใส่รถ และเอารถไปจอดเก็บไว้ ก่อนพาไปชี้จุดทิ้งมีดที่สระน้ำหนองตะคราม ต.ละเอาะ มีจังหวะหนึ่งนักข่าวได้ถามถึงที่มาที่ไปในการก่อเหตุ นายปลื้ม ยอมรับว่า ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ โมโหที่แก๊งอริวิ่งหนีเข้าไปในบ้านที่น้องโมอยู่ ตนเองก็ไม่ได้ดูอะไร เพราะชุลมุน และต้องป้องกันตัวเองด้วย ขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ

นอกจากนี้ นายปลื้ม ยังได้ฝากถึงแฟนสาว ย้ำว่าไม่ได้ตั้งใจก่อเหตุ แต่เมื่อเรื่องเกิดขึ้นแล้ว อยากบอกว่า หากฟ้าดินมีหูมีตา ถ้ารอได้ก็รอ ถ้ารอไม่ได้ก็ให้ไปหาคนใหม่ เพราะตนเองมีประวัติไม่ดี รวมถึงฝากคำคมให้แฟนสาว “รักบริสุทธิ์จากใจโจร”

สำหรับคดีนี้ รักษาราชการแทน ผกก.สภ.น้ำเกลี้ยง ยืนยันลงมาคุมด้วยตัวเอง ตั้งแต่ตรวจพยานหลักฐาน ประกอบกับมีคำสารภาพของนายปลื้ม ที่ยอมรับว่าไปเที่ยวงานหมอลำ เมื่อวันที่ 27 ต.ค.66 โดยซ้อนรถจักรยานยนต์ไปกับน้องชาย อายุ 15 ปี และช่วงเที่ยงคืนกว่า น้องชายได้ไปจีบสาวในหมู่บ้านที่งานหมอลำ ก่อนจะเห็นวัยรุ่น 3 คน จากอีกหมู่บ้านมาทำท่าทางหัวเราะเยาะ ทำให้เกิดการพูดจาถากถาง ประกอบกับตนเองเมาเหล้า ทำให้ฉุน จังหวะที่กลุ่มวัยรุ่นคู่กรณี 3 คน ขี่รถกลับ ตนเองจึงขี่รถไล่ตามไป จนเห็นว่าแก๊งวัยรุ่นคู่อริจอดรถทิ้งไว้หน้าบ้านของน้องโม แล้ววิ่งเข้าไปในบ้าน พร้อมกับร้องตะโกนให้ช่วย บอกว่ามีคนไล่แทง

จากนั้นไม่นาน นายปลื้มกับน้องชายก็ขี่รถตามมาจอด แล้ววิ่งเข้าไปในบ้านด้วย น้องโมที่อยู่ในบ้านก็ไม่ได้วิ่งหนี เพราะคิดว่าไม่ได้เป็นคู่กรณี แต่ปรากฏว่า นายปลื้มวิ่งเข้ามาใช้มีดจ้วงแทงน้องโม ทั้งที่น้องโมพยายามร้องขอชีวิต บอกว่าไม่รู้เรื่อง ไม่ได้ยุ่งเกี่ยว แต่นายปลื้มก็ไม่สน ใช้มีดสปาต้ายาว 40 ซม. แทงน้องโมไปอีก รวม 3 ครั้ง ที่บริเวณชายโครงขวา ลึกเกือบสุดด้ามมีด ตัดเข้าไปที่ปอดและเส้นเลือดใหญ่ น้องโมดิ้นทุรนทุรายออกมาเสียชีวิตหน้าบ้าน หลังเกิดเหตุ นายปลื้มได้ขี่รถหนีไป แต่ปรากฏว่ารถน้ำมันหมด ทำให้นายปลื้มต้องเข็นรถไปตามถนน แล้วแวะเติมน้ำมัน

รักษาราชการแทน ผกก.สภ.น้ำเกลี้ยง ย้ำว่า นายปลื้ม กระทำการอย่างอุกอาจและโหดเหี้ยม แม้สำนึกผิด แต่ศาลได้อนุมัติหมายจับใน 4 ข้อหาหนัก คือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ, ร่วมกันบุกรุกเข้าไปในเคหสถานของผู้อื่นในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยร่วมกระทำผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป และร่วมกันพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันสมควร จากนี้จะคุมตัวส่งศาลจังหวัดศรีสะเกษฝากขัง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้