รัฐสภา 22 พ.ค.-“สิระ” เตรียมยื่น รมว.มหาดไทย เอาผิดปมโรงแรมดัง 3 หมื่นล้าน รุกพื้นที่ภูเก็ต หลังดีเอสไอสอบพบการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ไม่ชอบ จ่อส่งกรมที่ดินเพิกถอน พร้อม ป.ป.ช.สอบเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง โวยสื่อดังชี้ตนพ้นสภาพ ส.ส. ส่อผิด พ.ร.บ.คอมฯ
นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แถลงว่า กรณีการตรวจสอบโครงการก่อสร้างคอนโดอาคารชุดเดอะพีค เรสซิเดนซ์ จังหวัดภูเก็ต มูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท โดยกระทรวงยุติธรรมได้มอบหมายให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบ ซึ่งดีเอสไอได้แจ้งผลการสอบสวนกรณีดังกล่าวมีประเด็นว่าการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 1863 ตำบลกะรน อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต เป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและมีความลาดชันเกิน 35 องศา อยู่ในเขตเขา และไม่มีการแจ้งครอบครองที่ดิน ส.ค.1 ซึ่งศาลปกครองนครศรีธรรมราชได้มีคำพิพากษาให้เพิกถอนหนังสือดังกล่าวและส่งให้กรมที่ดินเพิกถอนหนังสือ น.ส.3 ก. โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด
นายสิระ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ การอนุญาตก่อสร้างอาคารชุดดังกล่าวเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย แต่เทศบาลยังให้ดำเนินการก่อสร้างอยู่ โดยให้บริษัทกะตะบีช จำกัด วางหลักประกันจำนวน 3 ล้านบาท เพื่อเป็นหลักประกันในกรณีที่บริษัทไม่ยินยอมรื้อถอนและปรับสภาพที่ดินให้กลับสู่สภาพเดิม ซึ่งกรณีดังกล่าวกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารไม่ได้ให้อำนาจเจ้าพนักงานท้องถิ่นดำเนินการดังกล่าว ซึ่งการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ลักษณะอาจเข้าข่ายการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ซึ่งดีเอสไอได้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และกรมที่ดินพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไปแล้ว ทั้งนี้ ตนจะยื่นหนังสือถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้เร่งรัดในการพิจารณาเพิกถอนหนังสือ น.ส.3ก. และเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องด้วย
นายสิระ ยังกล่าวถึงกรณีหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง โดยระบุว่าในวันที่ 10 มิถุนายนนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยกรณีที่ตัดสินว่านายสิระ เจนจาคะ สิ้นสภาพ ส.ส. ภายหลังจากไปทำหน้าที่ตรวจสอบการก่อสร้างอาคารชุดโครงการ เดอะพีค เรสซิเดนซ์ ของบริษัท กะตะบีช จำกัด ที่อำเภอกระทู้ จังหวัดภูเก็ต โดยตั้งข้อสังเกตว่าสื่อหนังสือพิมพ์ออนไลน์ดังกล่าวไปรู้เรื่องภายในศาลได้อย่างไร และหากว่าวันที่ 10 มิถุนายนนี้ ผลไม่ออกมาตามที่เขียนลงในข่าว สื่อดังกล่าวต้องรับผิดชอบ เพราะเป็นการนำข้อความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีความผิดทางกฎหมาย
“ผมอยากตั้งข้อสังเกตการนำเสนอของเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ดังกล่าวด้วยว่าได้มีการนำเสนอเรื่องของผมเช้ารอบหนึ่งและบ่ายอีกรอบหนึ่ง มีเจตนาอะไร แล้วไปเอาข้อมูลจากศาลมาได้อย่างไร อยากถามว่าผมได้ไปเหยียบเท้าใครหรือไม่ หรือได้ไปเกี่ยวข้องกับผู้บริหารหนังสือพิมพ์นั้นหรือไม่ เพราะผมมองว่ามันเกินกว่าหน้าที่ของสื่อมวลชน” นายสิระ กล่าว.-สำนักข่าวไทย