ฟ้องศาลปกครองเพิกถอนระเบียบเลือก สว.

ศาลปกครอง 21 พ.ค.-“ธีรยุทธ” ฟ้องศาลปกครองเพิกถอนกติกาเลือก สว. ชี้ขัด รธน. เปิดช่องเอื้อคนมีพวก มีเงิน ฮั้ว-จัดตั้ง


นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจจากน.ส.วิเดือน งามปลั่ง ผู้สมัครรับเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ยื่นฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ต่อศาลปกครอง ขอให้มีคำพิพากษาเพิกถอนระเบียบกกต.ว่าด้วยการเลือก สมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2567 ข้อ 91 ข้อ 3 ข้อ 6 และระเบียบ กกต. ว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือก สว. ฉบับที่ 2 พ.ศ 2567   ข้อ 8 และขอให้ศาลมีคำสั่งทุเลาระงับใช้ระเบียบดังกล่าวไว้จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา   และส่งความเห็น ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามมาตรา 212 วรรคหนึ่ง พ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. 2561 มาตรา 36 มาตรา 41 และมาตรา 42   ตัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 หรือไม่ด้วย

นายธีรยุทธ กล่าวว่า ที่ต้องมายื่นฟ้องเนื่องจากระเบียบทั้ง 3 ฉบับขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 107 ที่ได้วางหลักการสำคัญไว้ การเลือกกันเองของสว.จะต้องมีมาตรการที่ทำให้การเลือกสุจริต เที่ยงธรรมทุกระดับ ป้องกันการฮั้ว ประชาชนต้องมีส่วนร่วมทางการเมืองทั้งโดยตรงและโดยอ้อม โดยเน้นให้ประชาชนทั่วไปมีสิทธิ์ที่เข้ารับสมัคร จึงต้องไม่มีค่าใช้จ่ายที่เกินกำลังของคนทั่วไป เพราะค่าสมัครคนละ 2,500 บาทนั้นถือว่าสูงเกินไป ส่วนการแบ่งกลุ่ม ต้องแบ่งในลักษณะที่ทำให้ประชาชน ซึ่งมีสิทธิ์สมัครสามารถอยู่ในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้


“ระเบียบทั้ง 3 ฉบับ ที่มีข้อกำหนดให้ผู้ช่วยเหลือผู้สมัคร สามารถช่วยผู้สมัครแนะนำตัว จะทำให้เกิดการแทรกแซง ครอบงำจากบุคคลที่ไม่ใช่ผู้มีสิทธิ์เลือก ทำให้เกิดความได้เปรียบ ไม่เป็นธรรม ระหว่างผู้สมัครรับเลือกเป็นสว.ด้วยกัน การให้ผู้สมัครแนะนำตัวด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ และประชาชนอาจเข้าถึงข้อมูลนั้นได้ ก็เป็นการเอื้อประโยชน์ให้ผู้สมัครที่มีกำลังทรัพย์ กำลังคน เครือข่ายโซเชียลเน็ตเวิร์คสามารถใช้กลไกเหล่านี้สร้างความได้เปรียบ ไม่เป็นธรรม เหลื่อมล้ำกับผู้สมัครสว.รายอื่น” นายธีรยุทธ กล่าว

นายธีรยุทธ กล่าวว่า ารที่ระเบียบเปิดช่องให้ผู้สมัครไม่ต้องลงคะแนนให้ตัวเอง จะทำให้เกิดการรับจ้างลงสมัครเพียงเพื่อจะได้มีเสียงโหวตจากกลุ่มผู้สมัครที่จัดตั้งขึ้น หรือกลุ่มผู้สมัครนั้นอาจจะมีพฤติกรรมชี้นำ ครอบงำ ชักจูง สั่งการหรือสมยอมให้มีการเลือกเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบ ทำให้การเลือกสว. เกิดความเสียหาย ยากแก่การเยียวยาแก้ไขในภายหลัง จึงขอให้ศาลมีคำสั่งตามที่ร้องขอ.-314 .-สำนักข่าวไทย     


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”

วางระเบิด 4 ลูก เกาะกลางถนนหน้าโรงเรียน จ.นราธิวาส

เช้ามืดวันนี้ (21 พ.ย.) เกิดระเบิดขึ้นอีก 4 ลูก บริเวณเกาะกลางถนนหน้าโรงเรียนบ้านฮูแตทูวอ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน