มาดริด 20 พ.ค.- สเปนบังคับพลเมืองทุกคน รวมถึงเด็กอายุ 6 ขวบขึ้นไป ต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ที่สาธารณะ ขณะที่รัฐบาลกำลังทยอยผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองที่เข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป
กระทรวงสาธารณสุขสเปนมีคำสั่งวันนี้ว่า ตั้งแต่วันพฤหัสบดีนี้เป็นต้นไปทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่สาธารณะทั้งในร่มและกลางแจ้ง รวมทั้งรักษาระยะห่าง 2 เมตรหากเป็นไปได้ รัฐบาลเตรียมยกเลิกมาตรการปิดเมืองส่วนใหญ่ภายในสิ้นเดือนมิถุนายนหากไม่มีการระบาดรอบสอง เนื่องจากยอดผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นไม่เกินวันละ 100 คนแล้ว ส่วนยอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 232,037 คน เสียชีวิต 27,778 คน การทยอยยกเลิกมาตรการปิดเมืองจะแตกต่างกันไปตามแต่ละภูมิภาค รัฐบาลผสมฝ่ายซ้ายเสียงข้างน้อยของนายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซจึงขอให้สภาขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศออกไปอีก 2 สัปดาห์ แต่จะต้องได้เสียงสนับสนุนจากฝ่ายค้านในการลงมติวันนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สเปนคงมาไม่ถึงจุดนี้หากนิ่งเฉยไม่ทำอะไร ทุกอย่างเป็นเพราะความทุ่มเทของบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนร่วมใจกันทำให้เส้นกราฟการติดเชื้อเป็นแนวราบ ดังนั้นจึงไม่มีใครมีสิทธิมาทำให้ความสำเร็จสูญเปล่า
การปิดเมืองมาตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมกระทบเศรษฐกิจสเปนที่พึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก คาดว่าจะหดตัวมากถึงร้อยละ 12.4 ในปีนี้ ประชาชนบางพื้นที่ชุมนุมเคาะหม้อและกะทะทุกวันในเวลา 21.00 น.เรียกร้องให้รัฐบาลลาออก ขณะที่ผู้ประท้วงในย่านอนุรักษ์นิยมฐานะดีพากันเพิกเฉยต่อมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม.- สำนักข่าวไทย