หนุ่มวัย 22 ขับ จยย.ชนคนเจ็บแล้วหายตัวไป ยอมรับผิดชอบ

นครนายก 18 พ.ค.- หนุ่มวัย 22 ปี รับทราบข้อกล่าวหา หลังขี่รถจักรยานยนต์ชนสองสามีภรรยาบาดเจ็บ แล้วตัวเองหายตัวไป จนลูกสาวผู้บาดเจ็บต้องโพสต์ตามหา อ้างไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลใน กทม. ยินดีรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด พร้อมขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น



หลังจากลูกสาวผู้บาดเจ็บโพสต์คลิปภาพเหตุการณ์รถจักรยานยนต์ PCX สีขาว พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างของสองสามีภรรยา ขณะกำลังขับขี่ชิดเลนขวาเพื่อยูเทิร์นรถกลับเข้าบ้าน แต่ประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ PCX ก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน หลังจากพุ่งชนรถจักรยานยนต์ไถลไปไกลกว่า 50 เมตร หลังจากเกิดเหตุคนขับรถ PCX ขึ้นรถเก๋งของแฟนสาวที่ขับตามมา เข้ากรุงเทพฯ เพื่อรักษาตัว


เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ สภ.บ้านนา ตำรวจได้เชิญตัวนายณัฐพนธ์ ประเสริฐกังกาล ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์  PCX  วัย 22 ปี ที่อยู่ในสภาพมีบาดแผลทั่วร่างกาย หลังเมื่อวานเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ จากการประสบอุบัติเหตุ โดยมีนายประสาน ประเสริฐกังกาล อายุ 52 ปี พ่อของนายณัฐพนธ์ เดินทางมาด้วย

จากนั้นนางอุไรวรรณ จันทา อายุ 35 ปี คู่กรณีที่ถูกชนท้ายรถจนได้รับบาดเจ็บ เดินทางตามมาถึง โดยทั้งสองฝ่ายเข้าพบกับพนักงานสอบสวน ตำรวจได้ให้ทั้งสองได้พูดคุยปรับความเข้าใจ และตกลงกันในเรื่องการรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้น จากนั้นพนักงานสอบสวนลงบันทึก


นายณัฐพนธ์ ผู้ขับขี่รถ PCX วัย 22 ปี ที่มีผ้าพันแผลทั่วร่างกาย เปิดเผยว่า ตนขับขี่รถมาเที่ยวน้ำตกกับเพื่อน ตอนเกิดเหตุตนขับมาด้วยความเร็ว จังหวะนั้นมีรถหันหนึ่งตัดหน้ารถตน ในตอนนั้นตนกำลังแซงขวา ไม่เห็นรถของคู่กรณีที่อยู่ทางขวา จึงได้ชน แล้วได้รับบาดเจ็บหนัก จึงรีบไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล หลังจากที่ตนเข้ารักษาแผลที่โรงพยาบาลนานกว่า 4 ชั่วโมง ก็ได้โทรติดต่อคู่กรณี โดยวันนี้ได้พูดคุยกับคู่กรณีแล้ว ว่ายินดีรับผิดชอบและชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทุกอย่าง

ขณะที่นายประสาน พ่อนายณัฐพนธ์ กล่าวว่า หลังจากที่ตนเห็นโพสต์ประกาศตามหาที่ลูกสาวคู่กรณีโพสต์นั้น ตนรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

ส่วนนางอุไรวรรณ ผู้ประสบเหตุ เผยรู้สึกดีใจที่คู่กรณีเข้ามาพูดคุยไกล่เกลี่ย พร้อมรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นได้ โดยวันนี้ตนรู้สึกเจ็บระบมไปทั้งตัว และขอขอบคุณลูกสาวที่โพสต์ข้อความจนสามารถหาคนทำผิดมารับผิดชอบได้

จากนั้น พ.ต.อ.ปัญญา เรือนดี ผู้กำกับการ สภ.บ้านนา ระบุว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งอุบัติเหตุ ตนเรียกตำรวจงานที่เกี่ยวข้องเข้าประชุม ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ส่วนผู้ต้องหาที่ทิ้งรถไว้ และเพื่อนรับตัวไปรักษาตัวที่กรุงเทพฯ จากนั้นตนส่งชุดสืบสวนเดินทางไปรับตัวผู้ต้องหาที่กรุงเทพฯ มาดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาที่ สภ.บ้านนา ในวันนี้

เบื้องต้นมีการแจ้งข้อกล่าวหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ขับรถประมาทหวาดเสียว โดยไม่คำนึงความปลอดภัยของผู้อื่น ส่วนการดำเนินการกับกลุ่มที่มากับผู้ต้องหา ให้เจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด รวมถึงคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มาขยายผลหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีทั้งหมด เนื่องจากเป็นการกระทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง