เลขาธิการ สมช.รับพิจารณาปรับเวลาเคอร์ฟิวอีกครั้ง

ทำเนียบฯ 16 พ.ค.- เลขาธิการ สมช. ย้ำการผ่อนคลายมาตรการประเมินอย่างรอบด้าน ยอมรับมีความเสี่ยงทุกระยะ ให้เดินทางข้ามจังหวัดได้หากมีความจำเป็น เตรียมพิจารณาปรับเวลาเคอร์ฟิว 23.00-03.00 น.


พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงข้อกังวลการคลายล็อก ระยะที่ 2 จะทำให้ตัวเลขการติดเชื้อกลับมาระบาดรอบ 2 ว่าจากการประเมินสถานการณ์ผ่อนคลายระยะที่ 1 ที่ประชาชนให้ความร่วมมือและตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงเป็นลำดับ จึงเป็นที่มาให้เกิดการผ่อนคลายระยะที่ 2 ดังนั้นทุกระยะที่ผ่อนคลายแม้จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น แต่เป็นความเสี่ยงที่อยู่ในความสามารถที่ควบคุมได้ ทั้งนี้หากพบว่ากิจการหรือกิจกรรมใดก่อให้เกิดการแพร่เชื้อ ไม่ว่าจะเปิดไปแล้วในระยะที่ 1 หรือระยะที่ 2 ก็สามารถปิดได้ หรือเพิ่มมาตรการที่เข้มข้นได้

พล.อ.สมศักดิ์ยังกล่าวถึงกรณีหลังคลายล็อคระยะที่ 2 วันที่ 17 พ.ค.นี้ ยังสามารถเดินทางไปต่างจังหวัดได้หรือไม่ และหากเดินทางไปแล้วต้องกักตัวหรือไม่ว่า การผ่อนคลายระยะที่ 2 ยังคง 3 มาตรการหลัก คือ คุมเข้มการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยป้องกันไม่ให้การแพร่เชื้อนำเข้าจากต่างประเทศ ยังไม่อนุญาตให้ทำการบินพาณิชย์  รวมถึงการห้ามออกนอกเคหสถานขยายเวลาเคอร์ฟิว 23.00-04.00 น. และให้งดหรือชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด หากมีความจำเป็นสามารถเดินทางได้ เมื่อไปถึงปลายทางบางจังหวัดมีมาตรการที่เข้มข้น ต้องปฏิบัติตามมาตการของจังหวัดนั้นๆ ส่วนข้อเสนอให้ปรับเวลาเคอร์ฟิวถึง 03.00 น.ได้หรือไม่ เนื่องจากกระทบเวลาการค้าขายตลาดเข้า นั้น จะนำไปพิจารณา เพราะในระยะต่อไปจะมีการพิจารณาลดระยะเวลาเคอร์ฟิวลง แต่จะนำตัวเลขช่วงเวลา 23.00-03.00น.ไปพิจารณาด้วย แต่จะเป็นช่วงใดต้องพิจารณาอีกครั้ง


ส่วนกรณีอนุญาตให้คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม เปิดได้เฉพาะเลเซอร์ พิวพรรณ ไม่รวมเสริมความงามบริเวณใบหน้านั้น เลขาธิการ สมช. กล่าวว่า หลักการสำคัญคือเมื่อคลายล็อกต้องยอมเสี่ยงบางเรื่อง เพื่อชดเชยผลกระทบทางเศรษฐกิจ กรณีการทำทันตกรรมถือเป็นกิจกรรมต่อการดำรงชีวิตจึงยอมให้ผ่อนคลาย แต่การเสริมความงามบนใบหน้ายังมีความเสี่ยงอยู่ เพราะสามารถติดเชื้อจากดวงตา ใบหน้า ยังต้องล้างมือเป็นประจำอย่านำมือไปสัมผัสใบหน้า ดังนั้นทุกกิจกรรมจะมีการจำกัดเวลาเข้าใช้บริการอยู่ หากมีเวลานานก็จะมีความเสี่ยง พร้อมจะนำไปพิจารณาในการผ่อนคลายระยะ 3 และระยะ4 แต่ต้องขึ้นอยู่กับความเห็นทางแพทย์ประกอบด้วย และหากร้านค้าเปิดให้บริการแต่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค จะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ หากพบจะตักเตือนก่อนและหากยังไม่ปฏิบัติตามและกลายเป็นพื้นที่เสี่ยงอาจสั่งให้ปิดกิจการไปก่อน.- สำนักข่าวไทย      

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็น-อีสานอุณหภูมิลดลงอีกเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อยในภาคอีสาน ส่วนภาคเหนือตอนบน ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : ส่องทิศทางแห่งอำนาจ “รัฐบาลทรัมป์ 2.0”

รายงานพิเศษวันนี้ไปติดตามสิ่งที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัญญาหาเสียงเอาไว้ ที่จะทำให้พอเห็นทิศทางการครองอำนาจของเขา โดยมีหลายอย่างที่จะสร้างความสั่นสะเทือนอย่างมาก