สหรัฐ 14 พ.ค.- สหรัฐทยอยผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ ผู้คนออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น ขณะที่องค์การอนามัยโลกเตือนไวรัสสายพันธุ์ใหม่อาจไม่มีทางหมดไปจากโลกนี้
แม้จะมีตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากที่สุดในโลก แต่หลายรัฐของสหรัฐยังคงเดินหน้าผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ หลังบังคับใช้มาหลายเดือนจนเศรษฐกิจประเทศต้องหยุดชะงัก หลายฝ่ายต่างวิตกกันว่าการปลดล็อกให้ผู้คนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้งจะทำให้เกิดการระบาดซ้ำสอง
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญมองว่า หลังจากนี้ราว 5-6 สัปดาห์ จะเป็นตัวพิสูจน์ให้เห็นว่าการผ่อนคลายการล็อกดาวน์ของสหรัฐ จะเป็นต้นตอให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจนกลายเป็นการระบาดรอบสองหรือไม่
ขณะที่นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ได้แสดงความกังวลอย่างมากถึงเศรษฐกิจของสหรัฐ เนื่องจากการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐถดถอยยิ่งกว่าในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ระบุด้วยว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงอยู่บนความไม่แน่นอนและมีความเสี่ยงอย่างมาก จนอาจทำให้สหรัฐต้องอยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอยไปอีกยาวนาน
ด้านนายไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก ระบุเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่อาจไม่มีทางหมดจากโลกใบนี้ ดังนั้น ผู้คนทั่วโลกจะต้องเรียนรู้ในการใช้ชีวิตอยู่กับเชื้อไวรัสนี้
ขณะที่นายเทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก เตือนว่า ไม่มีอะไรที่จะรับรองได้ว่า การผ่อนปรนการล็อกดาวน์จะไม่ก่อให้เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ ดังนั้น ประเทศต่างๆ ควรใช้มาตรการเฝ้าระวังโรคในระดับสูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อป้องกันการระบาดซ้ำ.-สำนักข่าวไทย