fbpx

ป้าขายหลานวัย12 ให้กิ๊กครั้งละ 100-200 บาท

ฉะเชิงเทรา 12 พ.ค.-ป้าแท้ๆ ขายหลานสาววัย 12 ปี ให้คนรักตนเองวัย 50 ปีล่วงละเมิดทางเพศในห้องน้ำวัด หวังได้เงินครั้งละ 100-200 บาท เอาไปเสพยา


วันนี้ นายเฉลียว สมสุขเจริญ  ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ตำบลคลองอุดมชลจร อ.เมือง  จ.ฉะเชิงเทรา  พร้อมเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และบ้านพักเด็ก  มาแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา ในกรณีที่เด็กหญิงเอ(นามสมมุติ)  อายุ 12 ปี  ถูกป้าแท้ๆ คือน.ส.อาริยา (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี พาไปให้คนรักของป้า(กิ๊ก) ที่ชื่อนายเบ้ ไม่ทราบนามสกุล อายุประมาณ 50 ปี กระทำอนาจาร เพื่อแลกเงินจำนวน 200 บาท นำไปซื้อยาเสพติด  


โดยเหตุดังกล่าว น.ส.อริยา ได้พาหลานสาว ออกจากบ้านด้วยรถจักรยานยนต์เพื่อไปตามหาสุนัขที่วิ่งหายออกไปนอกบ้านไปอยู่ฝั่งตรงข้าม แต่หายไปหลายชั่วโมง โดยวิ่งรถไปไกลหลายหมู่บ้าน พอกลับมาถึง นางสาวกาญจนา อายุ 30 ปี อาของเด็กหญิงเอสังเกตเห็นพฤติกรรมแปลกๆ ของหลานสาวและพี่สาวตนเอง จึงได้เรียกหลานมาคาดคั้นเพื่อสอบถามว่าไปถึงไหน ในเมื่อสุนัขหายไปแค่ฝั่งตรงข้ามกับบ้าน จนในที่สุดเด็กหญิงเอจึงได้ยอมปริปากบอกเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ว่าได้ถูกนายเบ้ ซึ่งเป็นคนรักของป้ากระทำอนาจารภายในห้องน้ำของวัดแห่งหนึ่งที่นายเบ้ยืนรออยู่ จนกระทั้งเวลาผ่านไปป้า จึงได้พากลับมาบ้าน โดยเหตุการณ์ในลักษณะที่เป็นการล่วงละเมิดทางเพศ เกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อสมัยที่เด็กหญิงเออายุ 8 ปี จนถึงปัจจุบัน โดยจะได้เงิน 100 – 200 บาท เป็นค่าขนมตอบแทน ซึ่งป้าก็จะนำไปซื้อยาเสพติด 

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้เข้าไปจับกุมตัวนางสาวอริยามาสอบปากคำ และเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะเข้าไปช่วยเหลือเด็กหญิงเอ รวมถึงหาทางช่วยเหลือลูกๆ ของนางสาวอริยาอีก 3 คน  ที่ปัจจุบันถูกทอดทิ้ง และแม้จะมีผู้อื่นรับไปดูแล แต่ก็ยังไม่เป็นไปตามกฎหมายที่ถูกต้อง   ส่วนนางสาวอริยาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวไว้และเตรียมตั้งข้อหาค้ามนุษย์ และอาจมีข้อหายาเสพติดด้วย   ส่วนตัวนายเบ้ ทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการติดตามตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีตามกำหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

คนร้ายฆ่าสาวโบลท์ เครียด ซัดมีอีก 2 คนยังไม่โดนจับ

เครียด! “ไอ้แม็ก” มือฆ่าชิงทรัพย์สาวโบลท์ ใช้หัวโขกลูกกรง สน.มีนบุรี จนตำรวจต้องเข้าระงับเหตุ ซัดมีอีก 2 คนยังไม่โดนจับ ล่าสุดคุมตัวไปฝากขังแล้ว

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก คลื่นลมแรง

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก ส่วนทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนคลื่นลมแรง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้