ครม.รับทราบรายงานการจ่ายประโยชน์ทดแทนว่างงานจากผลกระทบโควิด

ทำเนียบฯ 12 พ.ค.-ครม.รับทราบรายงานผลการจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานสำหรับผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ


นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ รายงานผลการจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานสำหรับผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ตามกฎกระทรวงการได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานอันเนื่องจากได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจ พ.ศ.2563 และกฎกระทรวงการได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัยอันเกิดจากการระบาดของโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ พ.ศ.2563

นางนฤมล กล่าวว่า โดยรายงานดังกล่าว ระบุว่าจำนวนผู้มายื่นขอใช้สิทธิกรณีว่างงานเนื่องมาจากเหตุสุดวิสัย ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม-7 พฤษภาคม 2563 มีจำนวน 1,028,334 ราย ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้มีการคัดกรองกรณียื่นซ้ำและกรณีที่ไม่ใช่ผู้ประกันตนมาตรา 33 ออกแล้ว และกระทรวงแรงงานโดยสำนักงานประกันสังคมได้พิจารณาวินิจฉัยสั่งจ่ายไปแล้ว จำนวน 568,604 ราย เป็นเงิน 3,046 ล้านบาท สำหรับผู้ประกันตนที่ยังเหลืออยู่จำนวน 459,730 รายนั้น อยู่ระหว่างดำเนินการ 313,445 ราย และผู้ประกันตนที่ยังไม่มีหนังสือรับรองการหยุดงาน จำนวน 146,285 ราย ซึ่งได้มีการประสานติดตามนายจ้าง จำนวน 50,862 แห่ง พบว่านายจ้างยังคงประกอบกิจการและยังมีการจ่ายค่าจ้างตามปกติ จำนวน 3,029 แห่ง จำนวนลูกจ้าง 23,129 ราย นายจ้างจ่ายเงินตามมาตรา 75 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 จำนวน 1,066 แห่ง จำนวนลูกจ้าง 14,455 ราย นายจ้างยังไม่ได้รับรอง จำนวน 46,767 แห่ง จำนวนลูกจ้าง 108,701 ราย ซึ่งกระทรวงแรงงานได้ระดมเจ้าหน้าที่จากกรมต่าง ๆ ประกอบด้วย กรมการจัดหางาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และสำนักงานประกันสังคม ติดตามประสานงาน คาดว่าจะติดตามได้ภายในวันที่ 12 พฤษภาคมนี้


โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า สำหรับการพิจารณาวินิจฉัยส่วนที่เหลือ จำนวน 313,445 ราย ได้เพิ่มอัตราเจ้าหน้าที่วินิจฉัย เดิมมีจำนวน 600 คน เพิ่มเป็น 1,200 คน และให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานทั้งวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และนอกเวลาราชการทุกวัน  ซึ่งได้สั่งการให้วินิจฉัยเพื่อให้มีการจ่ายเงินแล้วเสร็จภายในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ อย่างไรก็ตาม สำนักงานประกันสังคมได้ยืนยันว่าเห็นประโยชน์ของลูกจ้างเป็นเรื่องสำคัญและจะดำเนินการอย่างเต็มที่ โดยจะแก้ไขปัญหาในส่วนของผู้ประกันตนที่ยังไม่ได้รับเงินกรณีว่างงาน ให้ได้รับเงินอย่างถูกต้องและครบถ้วนโดยเร็วที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : ส่องทิศทางแห่งอำนาจ “รัฐบาลทรัมป์ 2.0”

รายงานพิเศษวันนี้ไปติดตามสิ่งที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัญญาหาเสียงเอาไว้ ที่จะทำให้พอเห็นทิศทางการครองอำนาจของเขา โดยมีหลายอย่างที่จะสร้างความสั่นสะเทือนอย่างมาก

พาชมเรือใบอิตาลีจอดเทียบท่าภูเก็ต

เมื่อ 2 วันก่อน สำนักข่าวไทยเก็บภาพของเรืออเมริโกเวส ปุชชี่ ขณะกำลังจะเข้าจอดเทียบท่าที่จังหวัดภูเก็ตให้ได้ชมไปแล้ว วันนี้คุณเพลินพิศ ชูเสน จะพาไปทำความรู้จักเรือลำนี้ให้มากขึ้นพร้อมกับพาไปเยี่ยมชมภายในตัวเรือ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

นายกฯ เผยผลสำเร็จร่วมประชุมเวทีอนุภูมิภาค GMS ACMECS

“แพทองธาร” นายกฯ เผยผลสำเร็จร่วมประชุมเวทีอนุภูมิภาค GMS ACMECS ขับเคลื่อนความร่วมมือสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต การพัฒนาคุณภาพชีวิต และความกินดีอยู่ดีของประชาชนในภูมิภาคอย่างไร้รอยต่อ