ขสมก.รับคนใช้บริการรถเมล์ทะลุกว่า 5 แสนคนหลังคลายล็อกดาวน์

กรุงเทพฯ 7 พ.ค.- ผอ.ขสมก. ยอมรับ จัดเดินรถเกือบ 100% แล้ว หลังคลายล็อกดาวน์ ทำให้มีผู้โดยสารเดินทางมากกว่า 5 แสนคนต่อวัน วอนทุกภาคส่วน ยังร่วมมือมาตรการ Work From Home เพื่อช่วยให้การจัด Social Distancing ในระบบขนส่งมีประสิทธิภาพ ช่วงเฝ้าระวัง COVID-19 ระบาดซ้ำ


นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ หรือ ขสมก. เปิดเผยว่าหลังจากมีการคลายล็อกดาวน์ เริ่มเปิดพื้นที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ขสมก.พบว่าจำนวนผู้ใช้บริการโดยสารรถเมล์เพิ่มขึ้นจากเฉลี่ยวันละ 3 แสน ถึง 4 แสนคน โดยในวันนี้มีผู้ใช้บริการรถเมล์โดยสารแล้วกว่า 5 แสนคน ส่งผลให้ ขสมก. ต้องกลับมาเดินรถด้วยจำนวนรถเกือบ 90 % ของจำนวนรถปกติที่ ขสมก.มีกว่า 2,000 คัน 


ทั้งนี้ยอมรับว่าแม้ผู้โดยสารที่ใช้บริการรถเมล์จะไม่ได้เพิ่มขึ้นจนถึงเกือบ 1 ล้านคนต่อวัน ซึ่งเป็นจำนวนผู้โดยสารปกติ ก่อนมีสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ระบาด แต่จำนวนผู้โดยสารกว่า 5 แสนคนที่มีขณะนี้ เมื่อต้องใช้ควบคู่กับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม Social Distancing บนตัวรถ ทำให้รถแต่ละคัน จำกัดจำนวนผู้โดยสารที่ขึ้นใช้บริการ ดังนั้นแม้จะมีผู้โดยสารเพียง 50% ของช่วงปกติ ขสมก. ก็ต้องเดินรถเต็มที่ เพื่อให้มีปริมาณรถเมล์เพียงพอต่อความต้องการใช้บริการ


“ยอมรับว่าสถานการณ์ในช่วงเย็นตั้งแต่ 18.30 น.จนถึง 21.00 น จะเป็นช่วงที่ต้องโหมเดินรถเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนเดินทางกลับบ้านได้ก่อนช่วงเวลาเคอร์ฟิว อย่างไรก็ตามยอมรับว่าขณะนี้ยังมีข้อดี ที่ไม่มีปัญหารถติดรุนแรง รวมทั้งไม่มีสภาพฝนตกเหมือนช่วงฤดูฝน ไม่เช่นนั้นก็จะทำให้การจัดปริมาณรถให้เพียงพอ และประชาชนเดินทางกลับได้ทันตามเวลา ยุ่งยากขึ้นไปอีก” นายสุระชัยกล่าว

อย่างไรก็ตาม ขสมก.ยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างเต็มที่ ในสถานการณ์ที่ยังต้องมีการรักษามาตรการ ระยะห่างทางสังคม Social Distancing เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ อย่างไรก็ตาม ขสมก.อยากขอความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ยังต้องใช้มาตรการรณรงค์ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” และมาตรการ Work From Home ต่อไป เพื่อไม่ให้มีปริมาณประชาชนเดินทางมาใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะทุกระบบมากเกินไป ในช่วงที่ยังต้องมีการใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมร่วมกันด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง